ไขข้อข้องใจ! ‘ยาเม็ด-ถุงยาง’ คุมกำเนิดไม่ได้ 100% แนะ ‘ยันต์กันป่อง’ ได้ผลดีเว่อร์

ประเทศไทยกำลังเกิดปัญหาแม่วัยรุ่น จากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทำให้แต่ละปีต้องมีเด็กผู้หญิงสูญเสียโอกาสทางการศึกษา และหลายรายต้องอยู่ต่อในสภาพแม่เลี้ยงเดี่ยว

แต่ทั้งนี้ การตั้งครรภ์ไม่พร้อมยังเกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกวัย จะด้วยภาระหน้าที่การงานต่างๆ ซึ่งท้ายที่สุดคือการเลี้ยงดูบุตรอย่างไม่สมบูรณ์

ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ผู้หญิงไทยจำเป็นต้องรู้เรื่องการป้องกันตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

นายแพทย์บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ การกินยาเม็ด ฉีดยาคุมกำเนิด และใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งหากถามว่าประสิทธิภาพดีไหม ในทางทฤษฎีถือว่าแนวทางข้างต้นมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องปฏิบัติตามเทคนิคทุกอย่างทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องด้วย

“แต่ในทางปฏิบัติมักเกิดปัญหาลืมกินยาบ้าง กินไม่ครบ ไม่ใช้ถุงยางทุกครั้งบ้างในกรณีมีเซ็กส์หลายครั้ง ทำให้ประสิทธิภาพในทางทฤษฎีไม่เท่ากับประสิทธิภาพในทางปฏิบัติ ที่จะพบความล้มเหลวเพิ่มขึ้นอีก 10-20 เปอร์เซ็นต์”

Advertisement
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ถุงยางอนามัย

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการคุมกำเนิดกึ่งถาวร ได้แก่ ยาฝังคุมกำเนิด และห่วงยางอนามัย ซึ่งวิธีนี้ประสิทธิภาพทางทฤษฎีและประสิทธิภาพในทางปฏิบัติใกล้เคียงกัน คือสามารถคุมกำเนิดได้ 99 เปอร์เซ็นต์ โอกาสพลาดมีแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวร คือ การทำหมัน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด 99 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน

ห่วงยางอนามัย

“วิธีการคุมกำเนิดแต่ละอย่าง ก็มีประสิทธิภาพ มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป อย่างยาคุมกำเนิด หาซื้อกินเองได้ ราคามาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย แต่ข้อด้อยคือก็มีโอกาสลืมกินได้เช่นกัน และยายังมีผลข้างเคียงกับฮอร์โมน ส่วนถุงยางอนามัย สามารถกันท้อง กันโรคได้ แต่ต้องใส่ทุกครั้งที่มีเซ็กส์ ซึ่งมีบ่อยก็ต้องใช้บ่อย”

“ส่วนยาฝังคุมกำเนิด ฝังครั้งหนึ่งสามารถคุมกำเนิดได้ระยะเวลา 3-5 ปี แต่อาจมีรอยฝังบ้าง ลูบคลำพบได้ และมีผลข้างเคียงบ้าง อาทิ เวียนหัว มีเลือดออกกะปริดกะปรอยบริเวณช่องคลอดบ้าง ในช่วง 6 เดือนแรก แต่หลังจากนั้นไม่มีผลข้างเคียงอะไรแล้ว และถือเป็นวิธีการที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”

Advertisement
ยาฝังคุมกำเนิด

ส่วนราคาแต่ละวิธีคุมกำเนิดนั้น นายแพทย์บุญฤทธิ์บอกว่า มีราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักพัน ตามรูปแบบวิธีการและยี่ห้อผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ ในกรณีผู้หญิงอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ สามารถรับยาฝังคุมกำเนิดฟรีในโรงพยาบาลรัฐ ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งอาจต้องโทรไปสอบถามหน่อยว่าโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้านของตนเองมีบริการนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สธ.อยู่ระกว่างการร่างกฎกระทรวงสธ. ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ในการรองรับกรณีผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ไปใช้บริการดังกล่าว ไม่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตก่อนได้ นอกเหนือจากการการร้องขอบริการยุติการตั้งครรภ์ในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน สืบเนื่องจากที่ปัจจุบันมีบางโรงพยาบาลต้องให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตก่อน ขณะที่บางโรงพยาบาลก็ไม่จำเป็นและให้ทำได้เลย

นายแพทย์บุญฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นวัตกรรมการคุมกำเนิดระยะหลังเป็นการพัฒนาแพ็กเกจและวิธีการใช้ จากที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวนี้ทำเป็นชุดที่สามารถฝังยาคุมกำเนิดได้เลย ง่าย สะดวก และยาเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ รวมถึงจากที่เคยฉีดยาคุมกำเนิด 3 เข็ม เดี๋ยวนี้พัฒนาเหลือฉีดเข็มเดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถนำกลับไปฉีดเองที่บ้านได้

แต่เร็วๆนี้ กำลังมีการพัฒนายาคุมกำเนิดของผู้ชาย ซึ่งยังอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image