ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 ตุลาคมนี้ นายโกมล คำรณศุภกิจ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการดำเนินงานของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จะรายงานผลการศึกษาการดำเนินงานของหอศิลป์ฯ ต่อที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ภายหลังจากศึกษารายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ทั้งสัญญาการให้สิทธิในตัวอาคารหอศิลป์ฯ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) 9 ชั้น พร้อมชั้นลอยและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวม 12 ชั้น และพื้นที่ต่อเนื่องกับอาคาร ศึกษาการบริหารงานของหอศิลป์ฯ และศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรับฟังข้อมูลการบริหารงานหอศิลป์ฯ จากสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลป์ฯ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า พบว่างบประมาณที่ กทม.อุดหนุนให้หอศิลป์ฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551-2561 รวมทั้งสิ้น 541.95 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 356.21 ล้านบาท แต่ กทม.และ มูลนิธิหอศิลป์ฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา ทั้งการนำพื้นที่ภายในหอศิลป์ฯ และพื้นที่หลายแห่งภายในอาคารไปให้บุคคลอื่นเช่าและเก็บค่าธรรมเนียม โดยไม่แจ้ง กทม. เพื่อขอความเห็นชอบจากสภา กทม. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามมาตรา 96 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการฯ พ.ศ.2528 ขณะที่ กทม.ไม่ได้กำกับดูแลให้มูลนิธิหอศิลป์ฯ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อสัญญา ไม่เคยแจ้งให้มูลนิธิหอศิลป์ฯ จ่ายค่าตอบแทนเป็นรายปี
“ส่วนการนำค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ ไปขอเบิกจ่ายจากงบประมาณ ไม่เป็นไปตามที่ตกลงในสัญญา ซึ่งมูลนิธิหอศิลป์ฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง นอกจากนี้ มูลนิธิหอศิลป์ฯ ควรต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ตามที่ กทม.ประเมินด้วย สำหรับการออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 เพื่ออุดหนุนงบให้มูลนิธิหอศิลป์ฯ นั้น กทม.สามารถอุดหนุนงบให้ได้ แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาเงินอุดหนุนแก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนด้วย ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะให้ กทม.ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบัญญัติ รวมทั้งให้มีการแก้ไขสัญญาให้สิทธิในตัวอาคารหอศิลป์ฯ ตลอดจนให้ กทม.วางแผนการบริหารจัดการหอศิลป์ฯ เนื่องจากสัญญาให้สิทธิในตัวอาคารหอศิลป์ฯ จะครบกำหนด 10 ปี ในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 และ กทม.ควรให้เอกชนที่เชี่ยวชาญรับสิทธิต่อภายใต้กฎหมายที่มี” แหล่งข่าวกล่าวและว่า และเนื่องจาก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 มูลนิธิหอศิลป์ฯ จึงต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ กทม.เป็นรายปีด้วย หากไม่มีต้องทำรายงาน เพราะถือเป็นนิติกรรมสัญญา
