‘อียู’ หนุนไทยยกระดับคุ้มครองสิทธิแรงงานประมง

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นายปีร์กะ ตาปีโอละ (Mr.Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมหารือข้อราชการในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าการให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานภาคประมง

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้เน้นความเป็นมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งกรณีอนุสัญญาไอแอลโอ ฉบับที่ 188 มีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาทิ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข แต่กระทรวงแรงงานจะเป็นเจ้าภาพในการยกร่าง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ซึ่งสมาคมประมงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากวิถีชีวิตการทำประมงรวมทั้งสภาพอากาศในประเทศไทยกับยุโรปมีความแตกต่างกันมาก ในการที่จะปรับโครงสร้างเรือและการบังคับใช้เป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของแรงงานภาคประมง

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานยังได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจร่วมกันกับผู้ประกอบการประมงใน 22 จังหวัดติดทะเล ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จะรับฟังความคิดเห็นและทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนให้กฎหมายฉบับนี้มีความคืบหน้าไปได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ยังได้หารือถึงความร่วมมือภายใต้โครงการ Ship to Shore Rights’Project โดยอียูได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเล ลดปัญหาการใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก และรูปแบบการทำงานที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image