เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ถึงกรณีการปรับปรุงและพัฒนาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ และโบราณสถานอื่นๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ภายหลัง กทม.ติดตามและสืบหาผู้ที่ดูแลและเป็นเจ้าของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและอนุสาวรีย์อื่น ซึ่งล่าสุด กทม.รับเป็นเจ้าภาพดูแลอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ในที่สาธารณะทั้งหมด รวม 14 แห่ง ประกอบกับการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2513 ระบุว่าที่ประชุมตกลงให้การดูแลรักษา ความปลอดภัยอนุสาวรีย์ในเขตเทศบาลเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย (มท.) และตำรวจ ส่วนการดูแลรักษาความสะอาดและความสวยงาม มอบให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล
“เนื่องจากเทศบาลต่อมาเป็น กทม. ดังนั้น ความรับผิดชอบปรับปรุงและพัฒนา จึงน่าจะเป็น กทม. โดยเบื้องต้น กทม. จะเข้าปรับปรุงสภาพพื้นที่ให้สะอาด สวยงาม และบำรุงรักษาทุกแห่งภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นจะขอความเห็นชอบจากกรมศิลปากรในการบูรณะอนุสาวรีย์และโบราณสถาน ซึ่งจะใช้งบประมาณของ กทม.ดำเนินการเอง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวถึงแนวคิดปรับปรุงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแผนจัดทำอุโมงค์ทางลอด ลักษณะเดียวกับโครงการอุโมงค์ทางคนเดินและทางคนเดินลอดเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ย่านวงเวียนใหญ่ ว่า แนวคิดการปรับปรุงจะมอบให้สำนักงานเขตราชเทวี และสำนักงานเขตพญาไท หารือกับสำนักผังเมือง กทม.และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่
“ส่วนการปรับปรุงเป็นอุโมงค์ทางลอดนั้น มองว่าไม่สามารถทำได้ เพราะการขุดเจาะใต้ดินไม่ใช่เรื่องง่าย รวมถึงหากทำอุโมงค์อาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชนในช่วงกลางคืน จึงจำเป็นต้องคงเป็นลักษณะเช่นนี้ไว้ ไม่อยากให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง อยากให้คงอยู่เช่นนี้ แต่การปรับปรุงกายภาพโดยรอบสามารถทำได้ ส่วนการจะรื้อสกายวอ์ก เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพของอนุสาวรีย์ตามแนวคิดขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จะร่วมหารือถึงรายละเอียดในทุกมิติอีกครั้ง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
