หลังจากเกิดกรณีปัญหาการให้บริการระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐ ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะมากจนทนไม่ไหว ไปเข้ารักษาในโรงพยาบาล (รพ.) อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่กลับถูกแพทย์เวรห้องฉุกเฉินพูดจาไม่ดีให้กลับบ้าน บอกว่า “โรงพยาบาลนะ ไม่ใช่เซเว่นฯ ให้มาพรุ่งนี้” กระทั่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม จนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สระแก้ว ต้องขอโทษนั้น
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า แพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาระหว่างผู้ป่วยกับทีมผู้ให้การรักษานั้นมีหลายประเด็นที่สังคมต้องเข้าใจให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ข้อความระบุว่า
“ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ
ช่วงนี้มีเรื่องดราม่าที่เกี่ยวกับวงการแพทย์บ่อยมากๆ ล่าสุด ก็มีวลีเด็ด “ห้องฉุกเฉินไม่ใช่เซเว่น จะมาเดินเล่นได้” อะไรทำนองนี้นะครับ ซึ่งในความเห็นผม ผมเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ครับ ผมเคยพูดเรื่อง การให้การบริบาลผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉินหลายครั้ง ย้ำว่า ห้องฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น คนไข้เจ็บป่วยที่ไม่ฉุกเฉิน แต่มารักษาที่ห้องฉุกเฉิน เท่ากับละเมิดสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉิน และการให้การรักษาที่ห้องฉุกเฉิน แพทย์จะให้การรักษาตามความเร่งด่วน คือ ใครมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่า แพทย์จะให้การรักษาก่อน ไม่ได้ให้การรักษาตามลำดับการมาก่อนหลัง ดังนั้นกรณีผู้ป่วยมารับการรักษาจำนวนมาก มีทั้งที่ไม่ฉุกเฉินและฉุกเฉินรวมกัน ก็ส่งผลให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะผู้ป่วยที่รอก็ไม่เข้าใจ อาจไม่พอใจที่รอนาน หรือเกิดความขัดแย้งกับทีมผู้ให้การรักษา เหมือนกรณีที่เป็นข่าว ผมว่าปัญหาระหว่างผู้ป่วยกับทีมผู้ให้การรักษานั้นมีหลายประเด็นที่สังคมต้องเข้าใจให้ถูกต้อง ดังนี้
1.ห้องฉุกเฉินมีวัตถุประสงค์รักษาผู้ป่วยที่ไม่ได้มีการนัดหมายไว้ แต่เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง หรืออุบัติเหตุที่รุนแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจก่อให้เกิดอันตราย เสียชีวิต หรือพิการได้
2.ห้องฉุกเฉินไม่ใช่ ห้องตรวจผู้ป่วยนอกที่ให้บริการนอกเวลาราชการ เพราะปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยเกือบ 1 ใน 3 เป็นผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉินที่มารับการรักษา ณ ห้องฉุกเฉิน ด้วยหลากหลายเหตุผล ที่ไม่ใช่เหตุผลทางการแพทย์
3.ห้องฉุกเฉินไม่ได้รักษาผู้ป่วยจนหาย แต่เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วน แก้ปัญหาการบาดเจ็บ อุบัติเหตุ หรืออาการเจ็บป่วยแบบฉุกเฉินเท่านั้น เมื่ออาการปลอดภัยก็จะส่งปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่เหมาะสมในแต่ละปัญหาต่อไป
4.ห้องฉุกเฉินไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นสถานที่เปลี่ยนสายให้อาหาร สายสวนปัสสาวะ ฉีดวัคซีน ขอรับยาที่หมดก่อนกำหนด
5.ห้องฉุกเฉินมีจำนวนเจ้าหน้าที่ และความพร้อมที่จัดไว้สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น
6.ห้องฉุกเฉินมีระบบการคัดกรองผู้ป่วยและให้การรักษาตามความเร่งด่วนว่าใครมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่ากัน เร่งด่วนมากกว่ากัน ไม่ได้ให้การรักษาตามลำดับก่อนหลังที่มา
7.ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เคยปิด ถึงแม้จะมีภัยพิบัติ ต่างกับร้านสะดวกซื้อ ตรงที่ห้องฉุกเฉินพร้อมช่วยให้คนไข้ปลอดภัยจากสิ่งที่มีอันตรายกับชีวิต ไม่ได้มีความพร้อมด้านอำนวยสะดวกสบายแก่ชีวิต
8.ห้องฉุกเฉินเป็นการบริการทางการแพทย์ ถ้าเป็นภาวะฉุกเฉินจริงๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ต่างจากร้านสะดวกซื้อที่ท่านต้องเสียค่าใช้จ่าย
ผมรู้สึกเหนื่อยใจ บางครั้งก็หมดกำลังใจกับข่าวดราม่าที่เกี่ยวกับวงการแพทย์ พยาบาล เพราะทุกครั้งที่มีข่าวออกมา หมอและพยาบาลคือ ผู้ผิดในสายตาของสังคมเสมอ พวกเราเหนื่อยครับ ทานอาหาร นอนไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว เราไม่ต้องการคำชื่นชมหรอกครับ เพียงแต่อย่ามาทำลายกำลังใจ ทำลายความตั้งใจของพวกเราก็พอครับ จบนะครับ ห้องฉุกเฉินไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ
หมอสมศักดิ์ เทียมเก่า
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น”
