บิ๊กโย่ง ใส่เกียร์ 5 อุดช่องโหว่ เตรียมเดินหน้างาน พม.เต็มที่

บิ๊กโย่งใส่เกียร์ 5 

เฉลิมฉลองวันสถาปนากระทรวง พม.ครบรอบ 16 ปี รอบปีที่ผ่านมาเผชิญปัญหาใหญ่สารพัด อย่างทุจริตเงินคนจน แต่จากนี้ “บิ๊กโย่ง-พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์” รมว.พม. เชื่อว่าจะดีขึ้น เพราะอุดช่องโหว่หมดแล้ว พร้อมเตรียมเดินหน้างาน พม.เต็มที่

“ใครจะพูดว่าปลายรัฐบาลจะเกียร์ว่างอย่างไรไม่รู้ แต่ พม.ใส่เกียร์ 5 เดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เป็นปีที่ขับเคลื่อนเก็บเกี่ยวผลงาน จะทำให้สังคมมีคุณภาพอย่างแท้จริง นี่คือเป้าหมายที่จะทำในปีต่อไป เพื่อให้ พม.เป็นผู้นำด้านสังคมของไทยและอาเซียนอย่างแท้จริง”

ขยันอย่างนี้ ไม่รู้มีใครมาทาบทามลงการเมืองงวดหน้ารึยัง (อิอิ)

Advertisement

ปรับปรุง หลักสูตรสุขศึกษา

จากความสำเร็จในการแก้ถ้อยคำ “โรคจิตวิปริต-จิตผิดปกติถาวร” ในใบ สด.43 ของกระทรวงกลาโหม ปลดล็อกให้กลุ่มกะเทยไม่ต้องไปเกณฑ์ทหาร และยังสามารถมีชีวิตหน้าที่การงานได้อย่างปกติสุข ด้วยถ้อยคำใหม่ว่า “บุคคลที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด” ล่าสุดนักสิทธิคนข้ามเพศ นำทีมโดย “นัยนา สุภาพึ่ง” อดีตกรรมการสิทธิมนุษย์ชน เตรียมขับเคลื่อนเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ ปรับปรุงแบบเรียนสุขศึกษาทั้งประเทศ ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1-ม.6 ที่ยังสอนภายใต้ฐานคิดโลกนี้มีเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง อีกทั้งมองผู้ที่เบี่ยงเบนทางเพศอย่างอคติ เป็นกลุ่มคนมีปัญหา ซึ่งพาผู้ได้รับผลกระทบยื่นคำร้องคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) เป็นที่เรียบร้อย 


งานนี้ นัยยากล่าวย้ำว่า ในทางการแพทย์ไม่ว่าจะกรมอนามัยโลก กรมสุขภาพจิตของไทย ได้ประกาศให้คนรักเพศเดียวกันไม่ใช่ผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งประกาศกันมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ในแบบเรียนสุขศึกษาของไทย 10 กว่าปีมานี้ยังสอนเนื้อหาเรื่องเพศแบบผิดๆ ซึ่งพวกเราเคยไปร้องที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ปรับปรุง แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า ยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องรอปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551

Advertisement

คงต้องฝากเสมา 1 นอกจากขับเคลื่อนการศึกษาไทยยุค 4.0 คงต้องเหลียวมองวิชาสุขศึกษาปรับให้ทันยุคสมัยด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image