เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยถึงสภาวะของประเทศไทยในช่วงปลายฝนต้นหนาวในระยะนี้จนถึงต้นปี 2562 ว่า ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้เป็นต้นไปประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนจะลดลง และอากาศจะเย็นลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส แต่สำหรับภาคใต้จะยังคงได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออก และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้เกิดลมแรงและมีฝนตกในบริเวณภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย
“นับตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ประเทศไทยตอนบนฝนจะลดลง โดยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2561 ไปจนถึงปี 2562 ไทยจะเริ่มเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยฝนจะน้อยลง หรือเกิดภัยแล้งในบางพื้นที่ แต่อาจจะไม่ชัดเจนมากนัก จนกว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ที่จะต้องเฝ้าระวังในระยะนี้ คือ พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เพราะในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ มีแนวโน้มว่าจะเกิดฝนตก โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะมีฝนตกหนักในบริเวณพื้นที่ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา และจ.นราธิวาส จากนั้นในเดือนธันวาคมฝนจะลดลงใกล้เคียงกับฤดูกาลปกติ”นายสุทัศน์ กล่าว
ผู้อำนวยการ สสนก.กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์นี้ สสนก.จะรายงานเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าว โดยจะมีการหารือใน 2 ประเด็น คือ 1.เตรียมการป้องกันและรับมือปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และ 2.การบริหารจัดการน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคในพื้นที่ตอนบนของประเทศที่คาดว่าจะเกิดฝนแล้ง
นายสุทัศน์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องภัยแล้งนั้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ล่วงหน้า ยังต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน แต่จากการพิจารณาจากสถิติย้อนหลังที่ผ่านมา คาดว่าในปี 2562 มีแนวโน้มสภาพอากาศใกล้เคียงกับเมื่อปี 2550 ที่ปีนั้นประเทศไทยมีฝนน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงเรื่องน้ำอุปโภคและบริโภคมากนัก เพราะรัฐบาลได้มีการบูรณาการบริหารจัดการน้ำ โดยได้กักเก็บน้ำไว้ในอ่างระดับหนึ่งแล้ว
