อย.ยกระดับสารสกัด ‘กัญชา’ ยาเสพติดประเภท 2 ชง ‘ปิยะสกล’ 9 พ.ย.

กัญชา

กัญชา-เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปลดล็อก “กัญชา” ทางการแพทย์ ว่า แม้ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. … เพื่อปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์ให้เป็นของขวัญปีใหม่ แต่ทาง สธ.ก็จะดำเนินการปลดล็อกแบบเล็กๆ โดยการเปลี่ยนกัญชาจากสารเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นประเภท 2 ด้วย ซึ่งอาจต้องทำแบบเล็กๆ เช่นนี้ไปก่อน เพื่อให้สามารถนำสารสกัดจากกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ได้และเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วย ส่วนการขับเคลื่อนกฎหมายของ สนช.นั้นจะเป็นร่มใหญ่อีกทีหนึ่ง ซึ่งระเบียบของ สธ.ที่จะปลดล็อกก็จะสอดรับกับกฎหมายที่จะออกมาเช่นกัน

วันเดียวกันมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์  ที่มี นพ.โสภณ เมฆธน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม(บอร์ดอภ.) เป็นประธานการประชุม โดยมีการพิจารณาวาระต่างๆ ซึ่งเน้นเรื่องการปลดล็อกทางกฎหมาย และปลดล็อกทางการแพทย์

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์  เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)  กล่าวภายหลังการประชุมว่า   ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้มีการพิจารณาทั้งทางวิชาการ และกฎหมายแล้ว โดยเตรียมจะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ลงนามในการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ  ซึ่งจะประชุมในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ โดยจะยกระดับจากสารสกัดกัญชาที่เป็นยาเสพติดประเภท 5 หรือ ย.ส 5 เป็นยาเสพติดประเภท 2 หรือ ย.ส 2 ซึ่งจะทำให้สารสกัดกัญชามาใช้ทางการแพทย์ได้ เหมือนกับมอร์ฟีนนั่นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกประกาศดังกล่าว จะขัดกับการเดินหน้าแก้กฎหมายของทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กำลังดำเนินการหรือไม่ นพ.ธเรศ กล่าวว่า ไม่ขัดกัน เพราะไปในทางเดียวกัน ซึ่งในส่วนของ สนช. เป็นพ.ร.บ.ฯ เป็นร่างกฎหมายใหญ่ แต่อันนี้เป็นประกาศ ซึ่งปกติเมื่อมีกฎหมายใหญ่ ก็จะมีการออกกฎหมายลูกตามมา โดยในส่วนประกาศ หากต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรก็ทำได้ แต่ภาพรวมก็ถือว่าเป็นการนำมาใช้ประโยชน์ก่อน อย่างไรก็ตาม แต่ในประกาศที่อย.จะดำเนินการนั้น จะกำหนดให้ใช้ได้เฉพาะสารสกัดและน้ำมันกัญชา ในเรื่องของดอก ใบ จะไม่ครอบคลุม เพราะตามกฎหมายยาเสพติดระบุว่า กัญชา เป็นยาเสพติดประเภท 5 แต่ที่ออกประกาศกระทรวงได้ เนื่องจากเอาเฉพาะสารสกัดและน้ำมัน ซึ่งไม่รวมดอกและใบ

Advertisement

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า  จากการประชุมในวันนี้(31 ต.ค.) ก่อนอื่นต้องย้ำว่า ยังคงเป็นยาเสพติดที่ต้องมีการควบคุม  และเป็นยาที่ไม่ใช่รักษาทุกโรค และหลักการปลดล็อก คือ จะค่อยๆ ปลด เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ได้เปิดอิสระ และไม่มีแนวคิดในการใช้เพื่อนันทนาการเลย นี่คือกรอบสำคัญ สำหรับการปลดล็อกจะมี 2 ประเด็น คือ 1.ปลดล็อกทางกฎหมาย และ 2. ปลดล็อกทางการแพทย์ โดยทางกฎหมาย ต้องขอขอบคุณทางสนช.ที่พยายามดำเนินการในเรื่องของกฎหมาย แต่ถ้าเร็วที่สุด คือ ทางอย.ดำเนินการ ด้วยการใช้ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข จากยาเสพติดประเภท 5 เป็นประเภท 2 แต่อาจมีปัญหาในเรื่องของแพทย์แผนไทย ให้ไปคุยในรายละเอียดกับทาง อย. ซึ่งอยู่ในคณะทำงานเพื่อวางระบบการควบคุมในการศึกษาวิจัยและการใช้กัญชาในทางการแพทย์ ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดที่ 4 ของคณะกรรมการที่ประชุมในวันนี้  โดยต้องไปดูว่า ตำรับแพทย์แผนไทยตัวไหนถือว่าเป็นสารสกัด หรือน้ำมัน ก็ต้องไปพิจารณากันในรายละเอียด

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องทางการแพทย์ก็พิจารณาตามกรอบแนวคิด มี 1. แพทย์แผนปัจจุบัน โดยยังเป็น 4 กลุ่มโรค ซึ่งมีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน และมียาขึ้นทะเบียนตำรับในต่างประเทศแล้ว  คือ   รักษาอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ให้คีโม   โรคลมชักดื้อต่อการรักษาในเด็ก   ปลอกประสาทอักเสบ  และอาการปวดรุนแรง  2. ยาตำรับแพทย์แผนไทย มีอะไรบ้างที่ให้ใช้กันอยู่  3.ส่วนสารสกัดน้ำมันกัญชา ที่อาจจะยังไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับ(Un approve  drug) ก็จะพิจารณาอีกทีว่าจะอนุญาตให้ใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ อย. และกรมการแพทย์ในการพิจารณาผ่านคณะทำงานชุดที่ 3 คือ คณะทำงานเพื่อพิจารณานำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะมีเรื่องพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ สมองเสื่อม หากมียาที่ไม่ขึ้นทะเบียน แต่มีการใช้ มีคำแนะนำในเรื่องวิธีการใช้ ขนาด โดสที่ใช้ก็ต้องมาคุยในรายละเอียด ว่าต้องอยู่ในการควบคุมอย่างไร ซึ่งก็จะมีทั้งคณะทำงานชุดที่ 3 และคณะทำงานชุดที่ 4  และ 4. ในส่วนยาที่ยังต้องวิจัยในระดับสัตว์ทดลอง เช่น เรื่องมะเร็งต่างๆ โดยทั้งหมดเป็นกรอบแนวทาง เพื่อให้ดำเนินการได้สะดวกขึ้น  อย่างไรก็ตาม สำหรับตำรับทางแพทย์แผนไทยระบุมาเบื้องต้นว่าเป็นสารสกัด ไม่ใช่เอาทั้งดอกมาใช้ เพราะมีการสกัดด้วยการต้ม ซึ่งก็ต้องไปคุยในรายละเอียดกับทาง อย.ด้วย

เมื่อถามว่าการเดินหน้ากฎหมายผ่านประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะต้องหารือร่วมกับทาง สนช. เพื่อให้กฎหมายล้อตามกันหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า  ตามกรอบแนวคิดคือ ค่อยๆปลดล็อกไปเรื่อยๆ  ซึ่งการใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นการปลดล็อกสเต็ปที่ 1 และมีระบบในการควบคุมเหมือนมอร์ฟีนอยู่แล้ว ส่วนกฎหมายของ สนช. หากออกมา ก็อาจใช้กรอบนี้ และเปิดกว้าง เช่น แพทย์แผนไทยบางอย่างไม่ได้ แต่กฎหมายฉบับใหญ่ออกมาก็อาจได้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องควบคุมตั้งแต่การปลูก ไม่ใช่ว่าปลดล็อกกฎหมาย แล้วให้ทุกคนปลูกได้อิสระ ไม่ใช่เลย ยังต้องควบคุมอยู่ ส่วนเรื่องการผูกขาดการปลูกหรือนำเข้าสารนั้น ก็จะเป็นการบ้านที่เราต้องนำเข้าประชุมครั้งหน้า

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า สำหรับตำรับยาแพทย์แผนไทยนั้น ถ้าเป็นสูตรสารสกัดและน้ำมันก็สามารถใช้ได้ แต่ถ้าเป็นดอก ใบก็ยังใช้ไม่ได้ ณ ขณะนี้

สำหรับการทำงานของคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ได้แบ่งคณะทำงานออกเป็น 4 คณะ ประกอบด้วย คณะทำงานชุดที่ 1 คือ คณะทำงานเพื่อการพัฒนาการปลูกและปรับปรุงสายพันธุ์คณะทำงานชุดที่ 2 คือ   คณะทำงานเพื่อการพัฒนาการสกัดและการตรวจวิเคราะห์ คณะทำงานชุดที่ 3 คือ  คณะทำงานเพื่อพิจารณานำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ และคณะทำงานชุดที่ 4 คือ คณะทำงานเพื่อวางระบบการควบคุมในการศึกษาวิจัยและการใช้กัญชาในทางการแพทย์(คณะทำงานที่4)

อ่านเพิ่มเติม

 ‘บิ๊กจิน’ เล็งออกมาตรการระยะสั้น ใช้ ‘กัญชา’ ทางแพทย์ก่อน ธ.ค.นี้ 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image