จี้ อย.! ปลดล็อกกัญชา คุมเข้มเท่ามอร์ฟีนไม่ได้ ต้องเปิดทางให้ตำรับยาแผนไทย

ปลดล็อกกัญชา

ปลดล็อกกัญชา-เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เตรียมยกระดับสารสกัดกัญชา จากยาเสพติดประเภท 5 เป็นประเภท 2  โดยระบุว่า เรื่องของกัญชาและพืชกระท่อม และความยอกย้อนในเรื่องกระบวนการของสำนักคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)   ล็อกใหญ่ที่สุดอยู่ที่สำนักนี้ เนื่องจาก ตั้งประเด็นควบคุมสารสกัดกัญชาเท่ากับระดับมอร์ฟีนจำกัดขอบเขตของการใช้จนกระทั่งไม่มีผู้ป่วยในภาวะและโรคอื่นๆสามารถจะใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น อย. ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น

-พืชสมุนไพรมีที่มาอยู่ในประเทศไทยและใช้อยู่แล้ว และคนไทย ถึงแม้จะผิดกฎหมายก็ใช้และขณะนี้มีการใช้ใต้ดินซึ่งไม่ทราบว่าถูกหรือผิดแต่มีปริมาณคนใช้มากมายมหาศาล
-ทำไม?
เนื่องจากการรักษาปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในเรื่องของประสิทธิภาพ ราคาการเข้าถึงและผลข้างเคียงรวมทั้งผลแทรกซ้อน ซึ่งไม่ได้หมายความว่ายาปัจจุบันไม่ดี แต่ถ้ามีอะไรเสริมเพิ่มเติมซึ่งทำให้ได้ประโยชน์มากขึ้นจะไม่ดีกว่าหรือ
-สิ่งที่สามารถนำมาเสริมเพิ่มเติมได้นั้นเป็นสมบัติของคนไทยมาแต่เนิ่นนาน แม้กระทั่งสามารถรู้สรรพคุณ ตามตำรับแผนไทย และในปัจจุบันมีการปรับสูตรต่างๆเพื่อนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคต่างๆ
-ถ้าทาง อย ไม่จัดการให้เรียบร้อยเป็นเรื่องเป็นราว. ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงของผู้ป่วยโดยที่ยาปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความต้องการและวัตถุประสงค์เป้าหมายของการรักษาได้ ทั้งทั้งที่มีสมุนไพรพื้นบ้านซึ่งสามารถทำการสกัดแล้ว และยังสามารถเทียบเคียงมิลลิกรัมได้ของสารทั้งสองชนิด THC CBD
อีกทั้งมีสารออกฤทธิ์อย่างอื่นนอกเหนือจากสองตัวที่พูดกัน. แม้กระทั่งในอังกฤษเองยังพูดถึงสุตรตำรับที่เข้ากัญชาว่ามีตัวอื่นที่นอกเหนือจากที่เรารู้จักแล้วและน่าจะเป็นตัวสำคัญที่ได้ประโยชน์เพิ่ม
-ทางสำนักอาหารและยาต้องรับผิดชอบในเรื่องต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่อ้างตามตัวหนังสือ ไม่ใช่อ้างตามเรื่องความเสพติดอย่างเดียว แต่ต้องควบรวมประโยชน์ที่จะได้รับสูงสุดจากทรัพยากรที่มีอยู่แล้วสามารถกำกับดูแลและสามารถควบคุมไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image