เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดการจราจรโครงการถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ช่วงที่ 2 ซึ่งขณะทำพิธีเปิดอุโมงค์รถยนต์ มีกลุ่มคนขับจักรยานยนต์ หรือ “ปลดแอกชาวสองล้อ” กว่า 10 คน นำโดย นายจีรสิทธิ์ จิรวงศ์ไพศาล ผู้แทนกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ กทม.ขอให้ยกเลิกการห้ามรถจักรยานยนต์ใช้อุโมงค์ด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า โครงการถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ช่วงที่ 2 จากคลองหัวหมาก-คลองลำสาลี จุดเริ่มต้นบริเวณสะพานข้ามคลองลำสาลี ลอดผ่านปากซอยกรุงเทพกรีฑา 7 และ 8 เบี่ยงแนวถนนตามแนวเวนคืนใหม่ สิ้นสุดโครงการบริเวณซอยกรุงเทพกรีฑา 9 โดยถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ช่วงที่ 2 ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ อุโมงค์ทางลอดขนาด 4 ช่องจราจรไป-กลับ ความยาว 560 เมตร (ม.) ผิวจราจรทางราบ ความยาว 420 ม. ถนน 6 ช่องจราจร ความยาว 400 ม. และถนนกรุงเทพกรีฑาซอย 9 ถึงซอย 28 ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ ความยาว 3,600 ม.
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า มีทั้งหมด 7 ช่วง ระยะทางรวม 12 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 6-10 ช่องจราจร 2 ทิศทาง เริ่มต้นที่ทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์-ถนนรามคำแหง 24 ไปตามแนวถนนกรุงเทพกรีฑา พร้อมก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกถนนกรุงเทพกรีฑา 7 เพื่อเบี่ยงแนวถนนตามแนวเวนคืนที่ใหม่ จากนั้นเป็นแนวตรงตลอดจนข้าม วงแหวนรอบนอกตะวันตกไปสิ้นสุดที่ทางแยกต่างระดับถนนร่มเกล้า-ถนนเจ้าคุณทหาร โดยช่วงที่ 1, 3, 4, 6, และ 7 ได้ดำเนินการและเปิดการจราจรแล้วในช่วงต้นปี 2561 เมื่อเปิดช่วงที่ 2 แล้ว จึงเหลือการก่อสร้างช่วงที่ 5 บริเวณสะพานข้ามถนนกาญจนาภิเษก เป็นการก่อสร้างทางยกระดับ 6 ช่องจราจร อยู่ระหว่างติดตั้งประกอบโครงสร้างสะพานสำเร็จรูปเพื่อนำมาติดตั้งบริเวณสะพานข้ามถนนกาญจนาภิเษก เพื่อให้สะพานทั้งสองฝั่งเชื่อมต่อกัน ขณะนี้ มีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 59 คาดว่าสะพานฝั่งขาเข้าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดการจราจรแบบสวนกันในเดือนมีนาคม 2562 ส่วนสะพานฝั่งขาออกคาดจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2562
“เมื่อโครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าแล้วเสร็จ จะเชื่อมโยงโครงข่ายถนนและเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรในแนวตะวันออก-ตะวันตก แก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่เขตบางกะปิ เขตสะพานสูง เขตลาดกระบัง และบริเวณใกล้เคียง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า นอกจากนี้ วันที่ 25 ธันวาคมนี้ กทม.จะเปิดอุโมงค์ทางลอดพัฒนาการ-รามคำแหง-ถาวรธวัช ซึ่งจะช่วยคลี่คลายปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่นี้อีกระดับหนึ่งด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มใช้รถจักรยานยนต์ขอร่วมใช้อุโมงค์ทางลอด ว่า กทม.ไม่มีอำนาจกำหนดประเภทของยานพาหนะที่จะสามารถใช้สะพานหรืออุโมงค์ต่างๆ ซึ่งข้อบังคับเหล่านี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เป็นผู้กำหนด
ด้าน พ.ต.ท.ยิ่งยศ ฉลาดปรุ รอง ผกก.จร.สน.หัวหมาก กล่าวว่า การเปิดอุโมงค์จะช่วยบรรเทาการจราจรในถนนรามคำแหงเป็นหลัก รวมถึงถนนพระราม 9 ถนนศรีนครินทร์ นอกจากนี้ ประชาชนสามารถเบี่ยงมาใช้เส้นทางนี้เพื่อหลีกเลี่ยงจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้มได้
“ส่วนกรณีการห้ามรถจักรยานยนต์ใช้อุโมงค์นั้น มีเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะมีข้อมูลวิศวกรรมจราจรและสถิติการเกิดอุบัติเหตุชัดเจนว่าอันตรายมากหากรถจักรยานยนต์ใช้อุโมงค์ร่วมกับรถยนต์ เนื่องจากความเร็วของรถยนต์ต่างจากรถจักรยานยนต์” พ.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าว
