สธ.เปิดศูนย์การแพทย์ เฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากฝุ่นเกินมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 14 มกราคม นพ.สุขุม  กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพและให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากสภาพอากาศที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานในพื้นที่กทม.และปริมณฑลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2561 อย่างไรก็ดีจากการติดตามสถานการณ์กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในวันนี้ (14 ม.ค.) ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง คุณภาพอากาศโดยรวมยังอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงได้มอบให้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข  (EOC)  ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนและวิธีป้องกันตัวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ.สุขุม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้  กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแนวทางในการดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จากมลพิษในอากาศร่วมกับกทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้มาตรการทางกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 รวมทั้งการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพในพื้นที่ กทม. ใน 2 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจและโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด มีการสื่อสารเตือนภัยให้ประชาชนทราบความเสี่ยงและป้องกันดูแลสุขภาพของตนเองได้

“ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่ได้เกินค่าในทุกพื้นที่ และพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐานก็ไม่ได้ค่าสูงอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยาที่ได้รับรายงานในโรงพยาบาลเครือข่ายกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3 สิงหาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 ไม่พบว่ามีผู้ป่วย 3 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวังสูงขึ้นผิดปกติ หรือพบเป็นกลุ่มก้อนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้แก่ หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด และไม่มีรายงานผู้ที่มีอาการรุนแรง” นพ.สุขุมกล่าว

พญ.พรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัว เช่นโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ หากออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกัน และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อยๆ หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจมีเสียงวี๊ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะขอให้ไปพบแพทย์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image