“บิ๊กเต่า” แจง 4 มาตรการคุมฝุ่นพิษ สั่งถกคกก.คพ.ลดค่าฝุ่นขั้นวิกฤตจาก 90 เป็น 70 มคก./ลบ.ม. หากอยู่ในระดับวิกฤติมอบอำนาจผวจ.กทม.-ปริมณฑล ประกาศยุติกิจกรรมก่อมลพิษ ประสานก.พลังงาน สนับสนุนราคาน้ำมัน B20 ให้มีราคาลดจากดีเซล 5 บาท ชี้ลดมลพิษได้ 12 % ทส.ทดสอบพ่นละอองน้ำขนาดเล็กจับโมเลกุลฝุ่น PM2.5 จากคาดฟ้าทส.หากได้ผลเตรียมนำใช้พื้นที่อื่น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 มกราคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.แถลงข่าวการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 โดยกล่าวว่า ทส.และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมแผนปฏิบัติการแก้ไขฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ และจะยกระดับความเข้มข้นของมาตรการตามความรุนแรงของสถานการณ์
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ระดับที่ 1 หากมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) อยู่ที่ 51 – 90 มคก./ลบ.ม. เป็นการเพิ่มความเข้มข้นของการดำเนินมาตรการต่างๆ อาทิ ตรวจจับควันดำ 20 จุดรอบกรุงเทพฯ ตรวจวัดควันดำเคลื่อนที่เร็ว 5 ชุด จัดชุดตรวจการ 16 ชุด ตรวจรถขสมก. เร่งคืนพื้นผิวจราจรในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า ฉีดพ่นน้ำแรงดันสูง 8 คัน เพิ่มความถี่ในการกวาดล้างทำความสะอาดถนน และงดเผาในพื้นที่ 5 จังหวัด ระดับที่ 2 หากปริมาณฝุ่นเกิน 90 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 3 วัน ครอบคลุมทั้งพื้นที่ ให้หน่วยงานสาธารณสุขยกเป็นระดับสถานการณ์รุนแรง เช่น ลดจำนวนยานพาหนะ ชะลอหรือหยุดการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า การปรับเปลี่ยนและแก้ไขแหล่งกำเนินมลพิษประเภทอุตสาหกรรมให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับ 1-2 ซึ่งหน่วยงานรัฐได้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดปริมาณฝุ่นแล้ว แต่ค่าฝุ่นยังขึ้นและลงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้หากสถานการณ์ฝุ่นวิกฤติไประดับที่ 3 คือ มีค่าฝุ่นเกิน 90 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 3 วัน ครอบคลุมทั้งพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล ใช้อำนาจตามมาตรา 28/1 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ และมีอำนาจยุติกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษได้ทันที ทั้งนี้จะใช้อำนาจเฉพาะพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินเท่านั้น ไม่ต้องยึดตามค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองจากทุกพื้นที่
รัฐมนตรีทส. กล่าวอีกว่า ส่วนระดับที่ 4 หากดำเนินการทั้ง 3 ระดับแล้ว ค่าฝุ่นยังเกิน 90 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกันหลายวันอีก จะมีการเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล) พิจารณามาตรการแก้ปัญหาเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 สั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อระงับหรือลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 อย่างไรก็ตามคณะกรรมการควบคุมมลพิษ โดยมีนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดทส. เป็นประธาน ร่วมประชุมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศ เพื่อกลั่นกรองค่าฝุ่นละอองในขั้นวิกฤตระดับ 3 จาก 90 มคก./ลบ.ม. เป็น 70 มคก./ลบ.ม. หรือไม่ หากเห็นชอบจะเสนอกก.วล. พิจารณามาตรการ และเสนอให้นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผวจ.กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดำเนินตามอำนาจดังกล่าวต่อไป
รัฐมนตรีทส. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ได้ประสานงานไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อสนับสนุนน้ำมันไบโอ B20 ที่ใช้ในกลุ่มรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถโดยสาร รถบรรทุก โดยตามแผนที่คุยกับกระทรวงพลังงานจะกำหนดราคาน้ำมัน B20 ให้น้อยกว่าน้ำมันดีเซล ประมาณ 5 บาท และคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยลดมลพิษได้ถึง 12 %
“ส่วนมาตรการการฉีดพ่นละอองน้ำ โดย ทส.จะร่วมกับภาคเอกชนทำการทดลองฉีดพ่นละอองน้ำที่มีขนาดเล็กพอๆกับโมเลกุลฝุ่น PM 2.5 ในบริเวณชั้น 20 ของตึกกระทรวง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่อาจกลับมารุนแรงอีกครั้งในวันที่ 28-29 ม.ค. นี้ ทังนี้หากใช้ได้ผลดีจะนำไปใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป”รัฐมนตรีทส. กล่าว
