กทม.ร่วมเอกชน เปิดโครงการถนนปลอดมลพิษ นำร่อง ‘ถ.พญาไท’

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 มกราคม ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์​ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดโครงการถนนอากาศสะอาดของกรุงเทพมหานคร เพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัตรการถนนอากาศสะอาศ ปลูกจิตสำนึกประชาชนในการใส่ใจลดมลพิษทางอากาศและสร้างเครือข่ายป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมี นางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัด กทม. ผู้แทนกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งร่วมกันปล่อยขบวนเดินรณรงค์ภายใต้แนวคิด “อากาศสะอาดเพื่อเราทุกคน หรือ Clean Air for All”

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ พบมีค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรการในบางช่วงเวลาและบางพื้นที่ กทม.จึงทำโครงการถนนอากาศสะอาด เพื่อให้ดำเนินการมาตรการ อาทิ การเฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพอากาศให้อยู่ในเกณฑ์กำหนด ควบคุมมลพิษแหล่งกำเนิดทั้งยานพาหนะ และสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ เพิ่มความถี่ในการล้างและทำความสะอาดถนน จัดการจราจร ปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นต้น รวมทั้งบรรจุในแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี (2556-2575) โดยวันนี้เริ่มนำร่องบริเวณถนนพญาไท เขตปทุมวัน พร้อมร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือลดมลพิษทางอากาศ ประกอบด้วย คพ. บก.จร. กรมอนามัย สำนักงานเขต 50 เขต บริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ ในการประกาศเจตนารมณ์และเดินรณรงค์ปลูกจิตสำนึกในการลดมลพิษทางอากาศ ผ่านแนวเส้นทางสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน ไปจนถึงสถานนีไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ รวมถึงจัดกิจกรรมบริเวณหน้าหอศิลป์ฯ เช่น การสาธิตการตรวจจับควันและห้ามใช้รถยนต์ควันดำตามการออกระเบียบจราจรของ บก.จร. นิทรรศการมลพิษทางอากาศ การแนะนำการใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5

Advertisement

“นอกจากนี้ กทม.ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการประเมินผลการดำเนินการโครงการถนนอากาศสะอาดของ 50 เขต โดยในปี 2562 กทม.ได้คัดเลือกถนนเข้าร่วมโครงการ 45 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร (กม.) พร้อมมอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ร่วมกับ คพ.ติดตามวัดผลต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง พร้อมเร่งหาสาเหตุที่ทำให้ค่าฝุ่นละอองเกิดวิกฤตให้การแก้ปัญหาได้ตรงจุด” นายจักกพันธุ์ กล่าว

นายจักกพันธุ์​ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองปัจจุบัน พบว่าคุณอากาศอยู่ในระดับปานกลางและมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในบางพื้นที่ โดย กทม.คาดสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ฝุ่นละอองเกิดวิกฤตจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความกดอากาศ รวมทั้งปัญหาควันดำจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ชนิดดีเซล ปัจจุบัน กทม.ยืนยันว่าค่าฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ​ ไม่ได้มีค่าเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ โดยจุดที่ประสบภาวะวิกฤตซ้ำซากจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วน สำหรับมาตรการระยะสั้น เช่น ขอความร่วมมือ บก.จร.และกรมการขนส่ง (ขบ.) ตรวจจับควันดำและระบายรถบริเวณพื้นที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน การล้างทำความสะอาดถนนและฉีดละอองน้ำลดฝุ่นละออง การสำรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้รับเหมาก่อสร้าง การห้ามเผาในที่โล่ง เป็นต้น

Advertisement

นายจักกพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะยาว เช่น การปรับปรุงมาตรฐานระบบไอเสียรถยนต์และการปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้เชื่อมโยงโครงข่ายการบริการขนส่งสาธารณะทุกพื้นที่โดยเร็ว ส่งเสริมและผลักดันให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) หรือระบบรถไฟฟ้า หรือระบบไฮบริด ทดแทนรถโดยสารรุ่นเก่า รวมทั้งจัดหาพื้นที่จอดแล้วจร (พาร์คแอนด์ไรด์) ให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมากทม.ไม่นิ่งนอนใจและเพิกเฉย โดยได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว เชื่อว่าหากทุกภาคส่วนร่วมกัน ทั้งภาคเอกชนและประชาชน กทม.มั่นใจว่าปัญหาฝุ่นละอองจะบรรเทาลง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image