เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือPM 2.5 ในอากาศ ที่บริเวณดาดฟ้าชั้น 30 อาคารชุดพักอาศัยโครงการลุมพินี สวีท ดินแดง -ราชปรารภ เขตดินแดง โดยมีคณะผู้บริหาร กทม. นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) น.ส.สมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการแอล.พี.เอ็น. และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม โดยอาคารแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางในการเริ่มปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำ พร้อมกับอาคารชุดพักอาศัยโครงการลุมพินีในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 150 โครงการ อีกทั้ง เป็นอาคารต้นแบบในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับฉีดพ่นละอองน้ำของอาคารชุดพักอาศัยโครงการลุมพินี และทำการฉีดน้ำล้างถนนด้วยอุปกรณ์แรงดันสูง
นายวัลลภ กล่าวว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล บริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ ได้ร่วมสนับสนุนและดำเนินมาตรการลดค่าฝุ่นละอองตามนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ด้วยการใช้วิธีฉีดพ่นละอองน้ำแบบสเปรย์จากชั้นดาดฟ้าของอาคารโครงการลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม เพื่อลดค่าฝุ่นละออง โดยได้ดำเนินการทุกวันในช่วงเวลาที่มีการจราจรคับคั่ง คือ เวลา 08.00 น. 12.00 น. และ 18.00 น. นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสร้างความต่อเนื่องและเตรียมการสำหรับอนาคต ด้วยการติดตั้งระบบน้ำฉีดโดยรอบทุกอาคารของโครงการลุมพินีที่มีอยู่ทั้งสิ้น 150 โครงการทั่วกรุงเทพฯ โดยแอลพีเอ็นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประกอบด้วย ค่าติดตั้ง ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจาก กทม. โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. สำนักงานเขตดินแดง ในการดำเนินการฉีดและกวาดน้ำล้างถนน ไม่ให้ฝุ่นที่ตกลงมาฟุ้งกระจายกลับไปเป็นฝุ่นได้ใหม่อีก
นายวัลลภ กล่าวว่า การเปิดสเปรย์ฉีดพ่นละอองน้ำวันละ 3 เวลา ของโครงการลุมพินีนั้นสามารถบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองได้เป็นอย่างมาก และไม่เป็นเพียงแต่ปล่อยละอองน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ลุมพินียังได้ทำการศึกษาและนำเครื่องโลเวอร์มาช่วยเพิ่มแรงส่งละอองน้ำ และในกรณีที่ทิศทางลมเปลี่ยนแปลง หรือมีกำลังลมไม่เพียงพอ เพื่อให้กระแสละอองน้ำนั้นเป็นประโยชน์ต่อการกำจัดฝุ่น PM2.5 มากที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวนิติบุคคลจะเป็นผู้ดูแล ตามที่ผู้ว่าฯ กทม.ร้องขอให้ภาคเอกชนได้มีส่วนสำคัญในการร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
ด้าน น.ส.สมศรี กล่าวว่า นอกจากการร่วมฉีดน้ำเพื่อลดค่าฝุ่นละอองในทุกโครงการแล้ว โครงการที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการที่ใช้เครื่องจักรในการก่อสร้างก็ได้ร่วมป้องกันและดูแลผลกระทบในส่วนต่างๆ เพิ่มเติม ด้วยการติดตั้งเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองเพื่อควบคุมไม่ให้ค่าเกินมาตรฐาน รดน้ำระบบสเปรย์กันฝุ่นบริเวณถนนหน้าโครงการและพื้นที่โดยรอบ และติดตั้งระบบท่อพ่นละอองน้ำบนรั้วโครงการก่อสร้าง พร้อมทั้งกวาดฝุ่นรอบอาคารหลังจากน้ำแห้ง ทำการแจกหน้ากากกันฝุ่นสำหรับคนงานทุกคน ติดแผ่นกรองฝุ่นในช่องเป่าอากาศสำหรับห้องตัดกระเบื้องและห้องตัดลามิเนตเพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย วางแผนลดการขนส่งวัสดุก่อสร้างที่จะมาถึงและออกจากพื้นที่ก่อสร้างให้น้อยที่สุด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ติดตามสอบถามสุขภาพของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็กเล็ก พร้อมแจกและรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำอีกด้วย
