อย.เผยโทรถาม ‘กัญชา’ ทะลุกว่า 5พันราย แจ้งครอบครอง 205 ราย ย้ำ กม.ไม่อนุญาตปลูก/เสพเสรี

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เปิดบริการให้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา ภายหลังจากที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวเนื่องกับการนิรโทษและครอบครองกัญชา จำนวน 3 ฉบับ ได้มีผลบังคับใช้ สำหรับสัปดาห์นี้ ตั้งแต่วันที่ 11-15 มีนาคม 2562 มีผู้สอบถามเข้ามาที่ อย. โดยสอบถามเข้ามายังช่องทางสายด่วน อย.1556 จำนวน 1,277 ราย หมายเลขโทรศัพท์ของกองควบคุมวัตถุเสพติด อย. 71 ราย และที่เคาน์เตอร์ เซอร์วิส 13 ราย คำถามที่พบส่วนใหญ่ยังคงสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการปลูก รายละเอียดของการนิรโทษ การนำเข้า และการส่งออก เป็นต้น และมีผู้ป่วยมาแจ้งครอบครองกัญชาจำนวน 120 ราย สำหรับตัวเลขสะสมตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดรับแจ้งวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ถึงปัจจุบันมีผู้โทรสอบถามเรื่องกัญชาเข้ามาที่ อย. จำนวน 5,014 ราย และแจ้งครอบครองกัญชาแล้ว 205 ราย

นพ.ธเรศ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับข่าวที่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า มีการอนุญาตให้ปลูก/เสพกัญชาเสรี นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามมาตรา 22 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ซึ่งกำหนดให้ผู้ป่วยที่มีการครอบครองกัญชาไว้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อนที่กฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับให้ผู้ป่วยมาแจ้งการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ แล้วจะถือว่าไม่มีความผิดตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่ใช่เพิ่งปลูกหรือหามาใช้ภายหลังที่กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังต้องไปตรวจสอบเฝ้าระวัง เพื่อให้มีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและเมื่อครบกำหนด 90 วันแล้ว ผู้ป่วยจะครอบครองต้นกัญชาไม่ได้ กรณีผู้ป่วยที่แจ้งการครอบครองสำหรับใช้เกิน 90 วัน และเมื่อครบกำหนด 90 วันแล้ว หากยังไม่ได้รับการรักษาและได้รับยาในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถใช้ยาดังกล่าวตามที่แจ้งการครอบครองไว้ก่อนได้ ดังนั้น จึงขอให้เข้าใจถูกต้องตรงกันว่า กฎหมายไม่มีการอนุญาตให้ปลูก/เสพกัญชาเสรี

“การเสพกัญชามีอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นกัญชาส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองทำให้ความจำบกพร่อง การเสพกัญชาจึงควรจำกัดให้ใช้ทางการแพทย์เพื่อการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคบางชนิดเท่านั้น และใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีผลข้างเคียง เช่น ประสาทหลอน หวาดระแวง และความบกพร่องเรื่องความจำ” เลขาธิการ อย. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การแจ้งครอบครองกัญชา เป็นการดำเนินการตามมาตรา 22 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2 562 ขอให้แจ้งข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบและเป็นประโยชน์ต่อผู้แจ้งเอง กรณีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าใบอนุญาตที่ อย. ออกให้สำหรับการครอบครองกัญชาเป็นการอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้ และมีการนำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด อย.จึงขอย้ำว่า ใบอนุญาตที่ อย. ออกให้ใช้ในวัตถุประสงค์การ “ครอบครอง” กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือการรักษาพยาบาลเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ “ปลูก” กัญชาแต่อย่างใด การที่นำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ผู้เผยแพร่อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้ จึงขอให้ผู้ครอบครองกัญชาระมัดระวัง ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image