นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า ปีนี้กรมทรัพยากรน้ำ และจิสด้า คาดการร่วมกันว่า จะมีประมาณ 11-17 จังหวัด โดยวัดจากสภาพความชื้นภายในพื้นดิน ที่จะเกิดภาวะภัยแล้งประกอบด้วย สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ ศีรษะเกษ หนองบัวลำพู และ อุตรดิตถ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเกิดทั้งหมดในพื้นที่ บางจังหวัดก็จะเกิดแค่บางพื้นที่เท่านั้น และ จะมี 7 จังหวัด ที่จะมีปัญหาเรื่องน้ำอุปโภค-บริโภค ซึ่งวัดจากข้อมูลแหล่งน้ำดิบ และการประปาส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย เชียงใหม่ นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา และ จ.เลย
“อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2561 กรมทรัพยากรน้ำ ได้น้ำเครื่องสูบน้ำขนาด 8-30 นิ้ว จำนวน 96 ตัว ออกสูบน้ำ ในพื้นที่ต่างๆราว 17 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไปเติมเป็นน้ำต้นทุนให้กับพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดภัยแล้งมาแล้ว ทำให้จนขณะนี้ เพิ่งจะมีการประกาศพื้นที่ที่เกิดภัยแล้งจริงๆแค่ ที่ จ.ศีรษะเกษ เท่านั้น ซึ่งเราก็มีรถวิ่งเติมน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกวัน”นายสุวัฒน์ กล่าว
เมื่อถามว่า พื้นที่กรุงเทพจะมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำหรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า กรุงเทพเป็นพื้นที่ศูนย์กลางไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำอยู่แล้ว ซึ่งทางการประปานครหลวงดูแลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัดและระมัดระวังด้วย ทั้งนี้คาดการว่า สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม หลายๆพื้นที่ฝนจะเริ่มตกลงมาแล้ว
