กทม.ยันเส้นตาย ‘คนไร้ที่พึ่ง’ ออกจาก ‘บ้านอิ่มใจ’ ภายใน มิ.ย.นี้ เหตุเร่งคืนอาคารสำนักทรัพย์สินฯ ตามสัญญา

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะผู้บริหาร กทม.มีมติเห็นชอบ เรื่อง การยกเลิกสัญญาเช่ากับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และการย้ายศูนย์คัดกรองและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสไปดำเนินการที่อาคาร 4 ชั้น บริเวณศูนย์ฝึกอาชีพบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) นั้น ยืนยันว่า กทม.มีความจำเป็นต้องคืนพื้นที่ให้กับสำนักทรัพย์สินมหากษัตริย์ในเดือนกันยายนนี้ เนื่องจาก กทม.ต้องเช่าพื้นที่ดังกล่าวในอัตราปีละ 28 ล้านบาท แต่กลับใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่า ประกอบกับคนไร้ที่พึ่งเข้าพักอาศัยอยู่ไม่มาก

“เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ผู้แทนจากทางสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกับสำนักการโยธาเข้าไปดูภายในพื้นที่ ก่อนที่ กทม.จะปิดพื้นที่และคืนอาคารดังกล่าว โดยต้องปรับปรุงให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย” นายเฉลิมพล กล่าว

กิจกรรมในบ้านอิ่มใจ

ทั้งนี้ นายเฉลิมพล กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ กทม.เช่าที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างบริเวณสำนักการประปา สาขาแม้นศรีเดิม ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์​นั้น เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง โดยกำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี เป็นสัญญาเช่าแบบปีต่อปี วงเงินค่าเช่าปีละ 28 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา สำหรับภายในพื้นที่ ประกอบด้วย 1.อาคาร 3 ชั้น โดยสำนักพัฒนาสังคมได้ทำเป็นศูนย์คัดกรองคนเร่ร่อน และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมและปัญหาในพื้นที่สนามหลวงและปริมณฑล หรือ “โครงการบ้านอิ่มใจ” ปัจจุบันมีผู้มาเข้าพักอาศัยเฉลี่ยวันละประมาณ​ 100 คนเศษ 2.อาคาร 6 ชั้น ซึ่งแบ่งพื้นที่ให้หน่วยงานได้ใช้ประโยชน์ ปัจจุบันสำนักการโยธาได้เปิดให้พื้นที่ภายในอาคารรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการปรับปรุงป้อมมหากาฬ เขตพระนคร 3.อาคารอนุรักษ์ ให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว จัดทำเป็นห้องสมุด ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวและหอศิลปวัฒนธรรมชุมชน 4.ถังประปา (อนุรักษ์) ให้สำนักวัฒนธรรม กีฬาและท่องเที่ยว ทำเป็นหอชมวิว และ 5.บริเวณโดยรอบให้สำนักวัฒนธรรม กีฬาและท่องเที่ยว จัดทำเป็นลานอเนกประสงค์ เวทีกิจกรรมกลางแจ้ง

นายเฉลิมพล กล่าวว่า เพื่อให้การคืนพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กทม.จึงมีกำหนดให้ผู้อาศัยทั้งหมดย้ายออกจากอาคารภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อทำการปิดพื้นที่ปรับปรุงสภาพอาคาร ขนย้ายสิ่งของภายในออกทั้งหมดเพื่อคืนต่อสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตามเงื่อนไขสัญญาเช่า ซึ่ง กทม.ได้แจ้งต่อผู้ไร้ที่พึ่งที่เข้ามาอาศัยอยู่เป็นประจำแล้ว พร้อมทั้งแจ้งพื้นที่ที่ กทม.ได้จัดหาพื้นที่ใหม่รองรับที่บริเวณศูนย์ฝึกอาชีพบางพลัด เป็นอาคาร 4 ชั้น ตามที่ กทม.ได้เช่าพื้นที่วัดบางพลัด เพื่อใช้ประโยชน์เป็นศูนย์พัฒนาธุรกิจตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในอัตราเช่าปีละ 100,000 บาท และจะสิ้นสุดสัญญาเช่าในปี 2565

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่เป็นประจำในส่วนของอาคาร 3 ชั้น มีความยินดีและประสงค์ย้ายไปยังพื้นที่รองรับใหม่ เนื่องจากโครงการบ้านอิ่มใจนั้นไม่ได้เปิดให้ผู้เข้าพักอาศัยแบบถาวร แต่เป็นแบบวันต่อวัน ส่วนอาคาร 6 ชั้น ที่สำนักการโยธาได้ย้ายชุมชนป้อมมหากาฬเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว เบื้องต้นได้ขอเจรจากับ กทม.ให้ขยายเวลาออกไปจนกว่าโครงการบ้านมั่นคง ของการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ย่านเกียกกายจะแล้วเสร็จ แต่เนื่องจาก กทม.มีกำหนดต้องคืนพื้นที่ตามเวลาที่กำหนด จึงไม่สามารถขยายเวลาออกไปได้ และยืนยันให้ผู้อาศัยย้ายออกในเดือนมิถุนายนนี้” นายเฉลิมพล กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image