เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน ได้มีการจัดเลี้ยงอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในชื่อ “หนึ่งในดวงใจชาวกระทรวงแรงงาน” มีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ร่วมงานจำนวนมากร่วมงาน โดยมีการวีดิทัศน์ประมวลภาพการทำงานทั้งหมด พร้อมกับมอบภาพขนาดใหญ่สูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นประมวลภาพการทำงานของ พล.ต.อ.อดุลย์ ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน 8 วัน พร้อมข้อความ “ฮีโร่ แรงงาน” ซึ่งการแสดงออกดังกล่าวทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ซาบซึ้งใจมากถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งหลังเสร็จงานเลี้ยง พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ก่อนขึ้นรถออกจากกระทรวงแรงงาน โดยมีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่มอบดอกกุหลาบอำลา
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เป็นรัฐมนตรีจะขอทำหน้าที่จนวันสุดท้าย เพราะพรุ่งนี้จะไม่มีโอกาสกลับมาอีก มันเป็นไปตามวิถี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ตั้งใจทำหน้าที่ผลงานในกระทรวงแรงงาน ตนไม่อาจประเมินผลได้ แต่มีเรตติ้งไม่เกินที่ 5 ว่าเป็นกระทรวงมี่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ การทำงานต้องมีเอกภาพ ตลอดเวลา
ทำหน้าที่มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงแรงงานรวม 337 ครั้ง จึงขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายและแผนปฏิบัติการให้เชื่อมต่อกัน สิ่งที่ตนทำไว้ ก็ต้องยอมรับว่ามีทั้งดีและเสียเสมอ สิ่งที่ดีขอให้ทำกันต่อไป เมื่อตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ จะมีความภาคภูมิใจ ส่วนการลาออกพร้อมกันของรัฐมนตรีและปลัดแรงงาน จะมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงแรงงาน ที่อาวุโสสูงสุดรักษาการแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้ยื่นหนังสือลาออกไปเป็น ส.ว. จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน หากไม่ลาออกจะยังเหลืออายุการทำงานอีกประมาณ 5 เดือน ส่วนคนที่จะขึ้นมารักษาการแทน จะเป็น นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีอาวุโสสูงสุด
สำหรับ นพ.สุรเดช ก่อนหน้านี้เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม แต่ถูกมองว่าไม่ค่อยสนองนโยบายจนถูกโยกย้ายมาเป็นรองปลัดกระทรวง เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ในส่วนของปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ ที่จะต้องมีการเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแต่งตั้งใน 1 เดือนมีชื่อของนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดดเด่นที่สุด เนื่องจากถูกมองว่าเป็น “กู๊ดบอย” ของทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ และนายจรินทร์ และยังเหลืออายุราชการจนถึงปี 2564 ส่วนนายสุเมธ มโหสถ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกระทรวงแรงงาน (ซี 11) รวมทั้งรองปลัดกระทรวงอีก 3 คน และอธิบดีอีก 3 กรม ล้วนเกษียณอายุราชการพร้อมกันในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน
