สภากาชาด สรุปยอดผู้ใช้กัญชาทั่วประเทศ 3.1 หมื่นราย ‘กทม.-นนทบุรี-โคราช-เชียงใหม่-ปทุมฯ’ท็อปไฟว์

สภากาชาดไทย สรุปยอดผู้ใช้กัญชาทั่วประเทศ 3.1 หมื่นราย 5 จังหวัดท็อปไฟว์ ‘กทม.-นนทบุรี-โคราช-เชียงใหม่-ปทุมฯ’

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดแถลงข่าวหัวข้อ “ความต้องการกัญชาทางการแพทย์ การนำมาใช้และวิถีการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม” โดยมี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ สธ. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข นายอภิวัฒน์ เฟื่องฟู หัวหน้าทีมพัฒนาเว็บไซต์ www.cbd.org และนพ.อรรถสิทธิ์ ศรีสุบัติ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ ร่วมแถลงข่าว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่ทางคณะทำงานสภากาชาดไทยได้พัฒนาระบบการลงทะเบียนการใช้กัญชาผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับผู้ป่วยที่ใช้กัญชารักษาโรคเพื่อขอนิรโทษกรรม เนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่สะดวกเดินทาง หาใบรับรองแพทย์หรือใบรับรองชื่อโรคไม่ทันภายในกำหนด ครอบคลุมผู้ป่วยที่เคยลงทะเบียนไปแล้วกับสำนักงานคณะคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้ป่วยใหม่ที่มีความประสงค์ลงทะเบียน โดยเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 13-21 พฤษภาคมที่ผ่านนั้น ขณะนี้ได้ปิดลงทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งทางสภากาชาดไทยจะส่งฐานข้อมูลดังกล่าวไปยังอย. เพื่อให้ได้ข้อมูลในการจัดทำระบบฐานข้อมูลในการเตรียมผลิตสารสกัดจากกัญชาให้เพียงพอต่อผู้ป่วย

Advertisement

“เชื่อว่าไทยจะเป็นยุคใหม่ทางการแพทย์ หากปลายปีนี้ทำให้การรักษาทางการแพทย์ด้วยกัญชาอยู่ในระบบเดียวกัน เพราะต้องอาศัยองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน กัญชาคือยา เช่น การใช้กัญชาในการละลายลิ่มเลือดช่วยรักษาคนไข้ได้ แต่หากได้รับในปริมาณมากไป ใช้ผิดโรค ผิดวัตถุประสงค์ พยายามหยด หยอด อาจทำให้เกิดอันตรายได้ อีกทั้ง กัญชายังจะเพิ่มฤทธิ์ยานอนหลับและยาต้านการซึมเศร้าในคนไข้ที่ใช้ยาปัจจุบันรักษาอาการ นอกจากนี้ หวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมกัน โดยต้องไม่มีผู้ใดฉวยโอกาส หรือโฆษณาเกินจริงเพื่อไม่ให้คนไข้เสียโอกาสที่จะได้รับการรักษาจากแผนปัจจุบัน โดยยืนยันว่าการรักษาต้องควบคู่กัน” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับยอดสรุปผู้ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ ระหว่างวันที่ 13-21 พฤษภาคม โดยจำนวนผู้ที่เข้ามากรอกข้อมูลในเว็บไซต์ www.cbd.org รวม 139,777 คนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจำนวนนี้มีผู้ยืนยันตนในระบบ (กรอกข้อมูลไม่ครบทุกขั้นตอน) จำนวน 43,892 คน โดยจำนวน 31,777 คนยืนยันครบทุกขั้นตอนและกรอกข้อมูลครบถ้วน สำหรับ 5 จังหวัดที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนแต่ละจังหวัด ได้แก่ อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร (กทม.) 8,726 คน รองลงมาคือ จ.นนทบุรี 1,400 คน จ.นครราชสีมา 1,205 คน จ.เชียงใหม่ 1,203 คน และจ.ปทุมธานี 1,145 คน ทั้งนี้ สามารถแยกตามภาคได้ ดังนี้ อันดับ 1 ภาคกลางมีผู้ลงทะเบียน จำนวน 15,748 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ กทม. 8,726 คน นนทบุรี 1,400 คน สมุทรปราการ 1,125 คน ปทุมธานี 1,145 คนและนครปฐม 466 คน ภาคอีสาน จำนวน 5,157 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 1,205 คน บุรีรัมย์ 462 คน ขอนแก่น 418 คน อุบลราชธานี 364 คนและอุดรธานี 286 คน

Advertisement

นายอภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก จำนวน 3,699 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ ชลบุรี 1,107 คน ระยอง 349 คน ฉะเชิงเทรา 334 คน ราชบุรี 325 คนและเพชรบูรณ์ 311 คน ภาคใต้ จำนวน 3,371 คนคิดเป็นร้อยละ 10 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 652 คน นครศรีธรรมราช 600 คน สงขลา 421 คน ชุมพร 361 คนและภูเก็ต 348 คน และภาคเหนือ จำนวน 3,202 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 1,203 คน เชียงราย 827 คน ลำปาง 323 คน พะเยา 230 คน และแพร่ 174 คน ส่วนอันดับอาการของผู้ป่วยที่เข้ามาลงทะเบียนพบว่า 1.มะเร็งและอาการที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง 2.โรคไบโพลาร์ 3.โรคซึมเศร้า และ 4.อัลไซเมอร์ ส่วนข้อมูลในรายละเอียดอื่น เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image