รู้สึกแย่เพราะเมากัญชา อย่ารออะไรทั้งสิ้น ให้ไปหาหมอทันที

รู้สึกแย่เพราะเมากัญชา อย่ารออะไรทั้งสิ้น ให้ไปหาหมอทันที

กรณี ที่โซเชียล มีการเผยแพร่ 8 วิธีรับมือเวลาเมากัญชาจนหลุดโลก โดยบอก ให้ดำเนินการต่อไปนี้

1. ไม่ต้องตื่นตระหนก
จำคำนี้เอาไว้ “ไม่ต้องตื่นตระหนก คุณจะไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง” อาการเมากัญชาจนหลุดโลก จะค่อยๆบรรเทาลงไปได้เองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่สำคัญยังไม่เคยมีใครตายเพราะเสพกัญชาเกินขนาดมาก่อนในประวัติศาสตร์ (ไม่ได้ท้าให้ทำได้เป็นคนแรกนะ >_<)

2. รู้ลิมิตตัวเอง
ตั้งลิมิตไว้ว่าเราอยากลอยสูงแค่ไหนแล้วไปแค่นั้นก่อน ที่สำคัญควรเลือกเพื่อนที่จะมาร่วมวงให้ดี ต้องเป็นเพื่อนที่ดีและไว้ใจได้ คุณคงไม่อยากอยู่ในสภาพที่เมาจนไม่รู้สึกถึงกายเนื้อของตัวเองโดยมีคนแปลกหน้านั่งมองอยู่ข้างๆแน่นอน

Advertisement

3.น้ำ,น้ำ,น้ำ
เครื่องดื่มเย็นๆเช่น น้ำและน้ำผลไม้ ช่วยบรรเทาอาการคอแห้งปากแห้ง และเพิ่มสมาธิได้ดี แต่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนะคะ

4.พริกไทยดำช่วยได้
ใครจะเชื่อว่าพริกไทยดำสามารถช่วยบรรเทาเมากัญชาหลุดโลกได้ แค่เอามาดมหรือเคี้ยวในปริมาณเล็กน้อยก็ช่วยได้ เยอะแล้ว

5. ผ่อนคลายร่างกาย
หาที่เงียบๆนุ่มๆสบายๆ ทิ้งตัวลงนอน สูดหายใจเข้าออกลึกๆ ถ้าสามารถงีบได้ช่วงสั้นๆก็จะดีมากๆ

Advertisement

6.ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง
ถ้าเดินไหว ลองลุกออกไปเดินเล่นข้างนอก สูดอากาศสดชื่นๆบ้าง จะช่วยเติมพลังให้ร่างกายได้อย่างดี แต่ถ้ารู้สึกว่า เดินไม่ไหวอย่าฝืน ให้เลือกทำตามข้อ 5 แทน

7.ไปอาบน้ำให้สบายใจ
ถ้าอยู่ในสถานที่ที่สะดวกและปลอดภัย แนะนำให้ไปอาบน้ำให้ชื่นใจจะช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการเมากัญชาได้อย่างดี

8.หาอะไรทำ
การหาอะไรซักอย่างทำ โดยเป็นกิจกรรมที่เราชอบหรือรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เช่น ดูการ์ตูนที่ชอบ ฟังเพลงโปรด เล่นเกมส์
หาของอร่อยๆกิน จะทำให้เรารู้สึกดีและรู้สึกปลอดภัยในตอนที่สมองเรากำลังสู้กับอาการเมากัญชาแบบสุดๆอยู่

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ มีกระแสข่าวถึงผู้ใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาดและต้องการรักษาตัวยังโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ล่าสุด ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ยังพบกรณีลักษณะเดียวกัน โดยในเวลาเพียงเดือนกว่า พบมีผู้ป่วย 7 ราย อายุระหว่าง 20-60 ปีเข้ารับการรักษาจากการได้รับผลเคียงจากการใช้สารสกัดจากกัญชาทั้งการสูบและหยดใต้ลิ้น ส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ แม้ข้อบ่งใช้ชัดเจนระบุว่าจะใช้รักษาอาการดังกล่าว แต่ข้อเท็จจริงสามารถใช้รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากบางอาการเท่านั้น ซึ่งบางรายยังมีภาวะสมองขาดเลือด ทำให้เกิดอาการอัมพาตเฉียบพลัน เพราะผู้ใช้มีอาการของโรคอื่นร่วมด้วย

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วย 7 รายที่เข้ารับการรักษา เป็น 1.ชายอายุประมาณ 20 ปี ใช้กัญชารักษาอาการปวดท้องเรื้อรัง เพียง 1-2 ครั้ง เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน 2.หญิงอายุ 35 ปี เป็นความดันโลหิตสูง หยดยาใต้ลิ้นเกินขนาด เนื่องจากหยดครั้งแรกรู้สึกติดปลายลิ้น เพียง 4 ชั่วโมงเข้าห้องฉุกเฉินทันที เพราะมีอาการบ้านหมุน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน 3. ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัว สูบกัญชาเป็นประจำ เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ 4.พระ อายุ 60 ปี รายงานไม่มีโรคประจำตัว ใช้กัญชาโดยการหยด เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อย จากคำแนะนำของหลาน ผ่านไป 1 คืนมีอาการวิงเวียนศีรษะ ต่อมามีอาการ สโตรก(Stroke) กลายเป็นอัมพาตครึ่งตัว และตรวจพบภายหลังเป็นความดันโลหิตสูง ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าสาเหตุมาจากการหยดกัญชาหรือไม่ 5.ชาย 45 ปี เคยผ่าตัดหัวใจและความดันโลหิตสูง หยดน้ำมันกัญชาแก้ปวดแค่ 1 ครั้ง ต่อมาเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ตาลาย คลื่นไส้ อาเจียน 6.ผู้ป่วยมะเร็ง 65 ปีติดเตียง หยดน้ำมันกัญชา จากนั้นปลุกไม่ตื่น แต่ยังไม่เสียชีวิต ก่อนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 2-3 วัน และ 7.หญิง 35-46 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น 3-4 วัน รักษาอาการเครียด นอนไม่หลับ ต่อมาดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

“ทางกรมการแพทย์อยู่ระหว่างการตั้งศูนย์เฝ้าระวังเพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้รับรายงานจากว่ามีเคสผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินมากขึ้นจากการทดลองใช้กัญชา เนื่องจากประชาชนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ากัญชารักษาได้ทุกโรค หากมีความต้องการใช้ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน อย่ามั่วรักษากันเอง ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติจากการใช้ ไม่ว่าด้วยอาการใดให้รีบพบแพทย์ทันที” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image