เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ภายหลังคำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ และมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหารถ เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ซึ่งให้ กทม.ดำเนินการเคลื่อนย้ายรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยไปเก็บในที่เหมาะสม และเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้ใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อใช้ในภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ ปัจจุบันเรือดับเพลิงทั้ง 10 ลำ ได้ดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จ ซึ่งได้พิจารณาตั้งชื่อ ตามชื่อสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เรือสาทร เรือดุสิต เรือบางรัก เรือพระนคร เรือคลองเตย เรือพระโขนง เรือบางกอกน้อย เรือยานนาวา เรือบางซื่อ และเรือคลองสาน ซึ่งในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00-10.00 น. จะจัดพิธีสวนสนามทางเรือ ที่บริเวณหน้าสวนหลวงพระราม 8 ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจากกรมเจ้าท่า มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กองเรือลำน้ำ กองทัพเรือ กองบัญชาการตำรวจน้ำ สำนักเทศกิจ ร่วมกับเรือดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 ลำ ด้วย
พ.ต.ท.สมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับเรือขนาด 38 ฟุต มีความยาว 38 ฟุต 9 นิ้ว กว้าง 12 ฟุต 2 นิ้ว ลึก 5 ฟุต 7 นิ้ว กินน้ำลึก 3 ฟุต 6 นิ้ว ความเร็วสูงสุด 30 น็อต เครื่องยนต์ดีเซลชนิด Marine Type เกียร์ขับเคลื่อน Sterndrive ขนาด 320 แรงม้า 2 เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ขับปั๊มน้ำ 1 เครื่อง 230 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 120 ลิตร/เครื่อง/ชั่วโมง อัตราการไหลของน้ำดับเพลิง 1,000 แกลลอน/นาที แรงดันน้ำ 150 ปอนด์/ตารางนิ้ว ซึ่งสามารถนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการกู้ภัยทางน้ำ ช่วยเหลือเหตุอุบัติภัยทางน้ำ รวมทั้งพื้นที่เกิดอัคคีภัยและสาธารณภัยที่อยู่ใกล้แม่น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ดียิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือดับเพลิง ขนาด 38 ฟุตดังกล่าว เป็นเรือดับเพลิงในคดีทุจริตการซื้อรถและเรือดับเพลิง มูลค่า 6,687 ล้านบาท ระหว่าง กทม.และบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด ประเทศออสเตรีย ซึ่ง กทม.เริ่มซ่อมเรือดับเพลิงก่อนจำนวน 10 ลำ จากทั้งหมด 30 ลำ เฉลี่ยประมาณกว่า 800,000 บาทต่อลำ เพื่อนำมาใช้งานโดยประจำไว้ที่สถานีดับเพลิงของ กทม.
