วันที่ 28 กรกฎาคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นงานสตาร์ตอัพ ไทยแลนด์ 2019 ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะปีนี้ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก จัดให้ประเทศไทยมีความสามารถด้านนวัตกรรมเป็นอันดับที่ 43 จากปี 2018 ที่เคยได้อันดับที่ 44 และไทยก้าวขึ้นอันดับที่ 4 ของกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางที่มีการพัฒนาความสามารถด้านนวัตกรรมดีที่สุด สะท้อนว่าการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 มาถูกทาง
นายสุวิทย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ Taizo Son นักลงทุนระดับโลก ประกาศพร้อมลงทุนธุรกิจสตาร์ตอัพในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการศึกษาแนวใหม่ ผ่าน Vivita ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัพที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แก่เด็กในแนวใหม่ เน้นใช้เทคโนโลยี การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และปรับปรุงการศึกษาสำหรับเด็ก เป็น Free Space ไม่มีครูผู้สอน ตอกย้ำว่าไทยคือ เมืองศูนย์กลางด้านนวัตกรรมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“อีกทั้งมีกระแสตอบรับอย่างดีกับนวัตกรรมการจัดงานแนวใหม่ จากสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการ นักลงทุน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ที่เข้าร่วมงานทั้ง 9 จุด กว่า 60,000 คน ยอดผู้เข้าชมผ่านการถ่ายทอดสดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และหลังจากจบงานยังสามารถรับชมย้อนหลังได้อีกหลายช่องทางทั้งเฟซบุ๊กไลฟ์ เว็บไซต์ และยูทูป มีเงินกองทุนรวมจากนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท เกิดการรับรู้ของนานาชาติมากกว่า 40 ประเทศ มากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ตอกย้ำว่ากรุงเทพมหานคร คือเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียสำหรับสตาร์ตอัพ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงประจักษ์ของย่านนวัตกรรมกรุงเทพฯ (Bangkok Innovation Corridor) ที่พร้อมให้สตาร์ตอัพสามารถทำกิจกรรมได้หลายที่ ทั้งกิจกรรม Roadshow Hackathon การจัดประชุมสัมมนา การทำ sand box ฯลฯ โดยใช้เส้นทางรถไฟฟ้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้ภายใน 1 วัน” นายสุวิทย์ กล่าวและว่า ที่สำคัญในงานนี้ได้มีการลงนามปฏิญญาร่วมกันใน 13 ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศพันธมิตรในการพัฒนาตลาดอาเซียนเพื่อสตาร์ทอัพ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากนี้คาดว่าจะเกิดสตาร์ตอัพใหม่ในวงการไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย เกิดนักรบเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มอุดมศึกษา อาชีวะ ไม่น้อยกว่า 60,000 คน ซึ่งก้าวต่อไปของสตาร์ตอัพไทยแลนด์ คือ เทคโนโลยีขั้นสูงที่สร้างโดยคนไทยเพื่อคนไทยและคนทั่วโลก (Deeptech 4 Innovated in Thailand)
