มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสุ่มตรวจ “น้ำพริกหนุ่ม” 17 ตัวอย่าง ร้อยละ 63 สารกันบูดเกินมาตรฐาน สูงสุดเกินกว่า 11 เท่า จี้รัฐยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหาร สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ ภายใต้โครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ เปิดเผยผลการสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 17 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์หาปริมาณวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก ครั้งที่ 2 หลังจากสุ่มตรวจครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2561 พบว่า มีเพียง 2 ตัวอย่าง ที่ไม่มีสารกันบูด คือ น้ำพริกหนุ่มอุ้ยคำ (ตราขันโตก) ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ และน้ำพริกหนุ่ม ยี่ห้อวรรณภา ร้านวรรณภา จ.เชียงราย
ส่วนอีก 8 ตัวอย่าง ตรวจพบเบนโซอิก และซอร์บิก แต่ไม่เกินมาตรฐาน หรือไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (มก./กก.) ได้แก่ ยี่ห้อแม่ศรีนวล ร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ เบนโซอิก 30.67 มก./กก. ยี่ห้อมารศรี สูตรดั้งเดิม ตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา เบนโซอิก 36.92 มก./กก. ยี่ห้อแม่มารศรี น้ำพริกหนุ่ม-ปลาร้า ร้านปะเลอะเยอะแยะ จ.เชียงราย เบนโซอิก 41.73 มก./กก. ยี่ห้อป้าแอ็ด ตลาดหลักเมือง จ.ลำปาง เบนโซอิก 387.38 มก./กก. ยี่ห้อศุภลักษณ์ รสเผ็ดมาก ตลาดสดแม่ต้า จ.พะเยา เบนโซอิก 51.92 มก./กก. ซอร์บิก 338.17 มก./กก. ยี่ห้ออำพัน ร้านข้าวแต๋นของฝาก จ.ลำปาง เบนโซอิก 435.29 มก./กก. น้ำพริกหนุ่มอุ้ยแก้ว ตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา เบนโซอิก 437.27 มก./กก. และ ยี่ห้อนันทวัน (เจียงฮาย สูตรดั้งเดิม) จ.เชียงราย เบนโซอิก 455.80 มก./กก. ซึ่งคาดว่าปริมาณกรดเบนโซอิกที่ตรวจพบเล็กน้อย อาจเป็นกรดเบนโซอิกจากธรรมชาติ ไม่ได้มาจากการเติม
ขณะที่ 7 ตัวอย่าง พบสารกันบูดมากกว่า 500 มก./กก. ซึ่งเกินมาตรฐาน ได้แก่ ร้านดำรงค์ ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ เบนโซอิก 890.32 มก./กก. น้ำพริกหนุ่มล้านนา ตลาดของฝากเด่นชัย จ.แพร่ เบนโซอิก 1026.91 มก./กก. ยี่ห้อนิชา (เจ๊หงส์ น้ำพริกหนุ่ม) ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ เบนโซอิก 1634.20 มก./กก. ยี่ห้อ เจ๊หงส์ ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ เบนโซอิก 1968.85 มก./กก. ยี่ห้อแม่ชไมพร ตลาดสดอัศวิน จ.ลำปาง เบนโซอิก 2231.82 มก./กก. ยี่ห้อยาใจ (รสเผ็ด) ร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ เบนโซอิก 3549.75 มก./กก. และ น้ำพริกหนุ่มอุมา ตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา เบนโซอิก 5649.43 มก./กก.
น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า น้ำพริกหนุ่มที่พบสารกันบูดสูงสุดนั้น มีปริมาณสูงถึง 5649.43 มก./กก. ซึ่งเกินกว่าที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 389 พ.ศ.2561 เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 5) กำหนดถึง 11 เท่า โดยประกาศดังกล่าวอนุญาตให้ตรวจพบวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิกสูงสุดไม่เกิน 500 มก.ต่อน้ำหนักอาหาร 1 กก. และประเภทกรดซอร์บิกสูงสุดไม่เกิน 1,000 มก./กก. ในหมวดอาหารประเภทเครื่องปรุงรส
“นอกจากนี้ หากมีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร เช่น วัตถุกันเสีย ต้องระบุข้อมูลการใช้สารกันบูดไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ผู้บริโภครับทราบ ซึ่งน้ำพริกหนุ่มทั้ง 17 ตัวอย่าง มีเพียง 2 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 11 เท่านั้น ที่ระบุว่าใช้วัตถุกันเสีย โดยเฉพาะ 7 ยี่ห้อ ที่มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน ไม่มียี่ห้อใดที่ให้ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ว่าใช้สารกันบูด” น.ส.มลฤดี กล่าวและว่า จากที่เคยสุ่มตรวจสารกันบูดในอาหารหลายประเภท ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีการแสดงฉลากให้ถูกต้องชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องการใช้วัตถุเจือปนอาหารประเภทสารกันบูด จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกฎหมาย ข้อกำหนด หรือบทลงโทษ ให้ผู้ประกอบการได้มีการจัดทำฉลากบนบรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคด้วย
น.ส.พวงทอง ว่องไว เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ กล่าวว่า จากผลตรวจน้ำพริกหนุ่มครั้งนี้ พบว่ากว่าร้อยละ 63 มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน จึงจะประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่ สำรวจคุณภาพมาตรฐานสินค้าของฝากประเภทอื่นๆ และให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้วัตถุเจือปนอาหารให้ถูกต้องกับผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับมาตรฐานของฝากภาคเหนือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่อไป
