ความคืบหน้ากรณีชายไทยเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังกลับจากการเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกากลาง
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาล (รพ.) ศิริราช ได้รับผู้ป่วยรายดังกล่าวมาจริง จากการตรวจอาการเบื้องต้นไม่เข้ากับโรคอีโบลา แต่ผู้ป่วยมีภาวะหัวใจหยุดเต้น อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว จึงต้องทำการปั๊มหัวใจ และเสียชีวิตในที่สุด
“แต่เนื่องจากเดินทางกลับมาจากประเทศแถบแอฟริกากลาง จึงต้องตั้งข้อสงสัย และตรวจสอบหาเชื้ออีโบลา ขณะเดียวกัน ก็ต้องปฏิบัติการทุกอย่างให้เหมือนผู้ป่วยรายนี้เป็นโรคอีโบลาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จากการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) 2 แห่ง ผลตรวจยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้ออีโบลา แต่เป็นมาลาเรียชนิดรุนแรง” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว และว่า ผู้ป่วยรายนี้ เป็นชายไทยกลับจากแอฟริกากลาง เริ่มมีไข้ มีอาการต่างๆ สุดท้ายเข้ารับการรักษาที่ รพ.ศิริราช ด้วยอาการซึมลง ถ่ายเป็นเลือด และเมื่อมีการซักประวัติพบว่าเพิ่งกลับมาจากแถบแอฟริกากลาง จึงต้องระวังไว้ก่อนว่าจะติดเชื้อไวรัสอะไรหรือไม่
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม รพ.ศิริราช จึงต้องมีการปิดให้บริการบางโซน เพื่อทำความสะอาด เป็นการป้องกันไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าผลการตรวจจาก 2 ห้องปฏิบัติการ ยืนยันตรงกันว่าไม่ใช่เชื้ออีโบลา แต่เป็นการติดเชื้อมาลาเรียที่รุนแรง ทั้งนี้ จากการซักประวัติ พบว่าชายรายดังกล่าวเข้าไปในป่าของแอฟริกาเป็นเวลา 3 วัน หลังจากนั้น เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยได้ 5 วัน ก็เริ่มมีอาการดังกล่าว