“อนุทิน” แถลงนโยบายดัน “สมุนไพรไทย” สร้างเศรษฐกิจรบ. ผุดไอเดีย ชวน “แมคโดนัลด์” ขายผลิตภัณฑ์ลดไขมัน

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติคุณ รองปลัดสธ. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และภาคีเครือข่าย ได้แก่ ผู้แทนจากรมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าภายใน สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้บริหารบริษัท คิง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหาร ซีพี ออล์ จำกัด(มหาชน) องค์การภาคีเครือข่ายส่งเสริมการขาย ร่วมแถลงนโยบายการพัฒนาสมุนไพรไทยสร้างเศรษฐกิจของรัฐบาล ในโครงการนำสมุนไพรคุณภาพสู่ตลาดโลก(Thailand KISS the world)

นายอนุทินแถลงว่า ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อ 10-15 ปีก่อน ต้องยอมรับว่าการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรก้าวหน้าไปมาก แทบจำของเดิมไม่ได้ ส่วนตัวได้มีโอกาสเห็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในสถานประกอบการทั่วโลก อาทิ ร้านสปา ห้างสรรพสินค้า เมื่อเดินผ่านร้านที่มีสินค้าเมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) แม้แต่ซอสศรีราชา ข้าวหลาม แตงโม มังคุด ทำให้รู้สึกปลื้มใจทุกครั้งที่เห็นสินค้าสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้กำกับดูแลกรมแพทย์แผนไทยฯ ที่ควบคุมด้านพืชสมุนไพร ซึ่งทางสธ.ยืนยันพร้อมจะให้การสนับสนุนทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และต่อไปนี้ใครที่ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสมุนไพรทุกชนิด และมีทุกอย่างเมดอินไทยแลนด์ หากไม่มียาพิษ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะต้องอนุมัติให้ภายใน 1 วัน ส่วนใครผลิตของที่เป็นอันตรายต่อชีวิต จะต้องเอาเข้าคุกภายใน 1 ชั่วโมง เพราะหากอยากให้อนุมัติได้รวดเร็ว จะต้องทำอย่างถูกต้อง

“สิ่งที่น่าเบื่อที่สุดในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข คือ ใบฝาก อย. เพราะขอแล้วเป็นปี สองปีก็ยังไม่อนุมัติ แต่ยอมรับว่าร้อยละ 80 ของใบฝากอย. ล้วนมีสิ่งต้องห้ามอยู่ เมื่อตรวจสอบกันอย่างจริงจัง บางอย่างพบผิดตั้งแต่ต้นทาง แต่บางอย่างอย.ทำช้าก็มี กั๊กไว้ก็มี และเมื่อได้เข้ามา จึงได้ทำความเข้าใจต่อผู้บริหารสธ. โดยหน่วยงานราชการที่ไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์ ไม่ได้กำไร แต่ได้จะได้รายได้จากการเสียภาษีของผู้ประกอบการ และภาษีนั้นจะเป็นเงินเดือนของพวกเรา ดังนั้น บางอย่างจะต้องอำนวยความสะดวก ทำให้รวดเร็ว ทั้งนี้ ถ้าหากอยากให้ผมอยู่นานๆ ก็ต้องสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้นานๆ เพราะถ้าจะให้อยู่ภายใน 3 เดือน 6 เดือน เดือนที่ 7 ก็จะมีปัญหาอีก ก็ให้ผมอยู่ยาวๆ จะได้ช่วยผลักดันเรื่องสมุนไพร”นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า ทุกวันนี้การขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์คืบหน้ามาก เขาบอกเป็นยาวิเศษ ก็วิเศษจริงๆ ส่วนคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะหยอดยาเกินขนาด ไม่ได้หยอดหยดเดียว เมื่อเข้าโรงพยาบาลก็ออกข่าวกันโครมคราม แต่เมื่อใช้รักษามะเร็ง ลมชัก ความเครียด นอนไม่หลับจนหาย กลับไม่เป็นข่าว การให้ความรู้ประชาชนก็เป็นสิ่งที่ราชการต้องปรับตัว ทั้งนี้ ตนเคยอยู่ภาคธุรกิจมาก่อน จึงเข้าใจเรื่องอำนวยความสะดวกของภาครัฐต้องมีความรวดเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้สินค้าเสียหาย ต้องลดสต็อกการผลิต กระทบต่อการจ้างงาน ส่วนนี้ตนจะแก้ไขและทำให้ระบบรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ ขอบคุณภาคธุรกิจที่เพิ่มช่องทางการขาย ส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพให้เป็นที่รู้จัก แต่หากร้านแมคโดนัลด์ จะสนใจจะนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรไปจำหน่ายในร้านบ้าง ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดี เมื่อกินของทอดเสร็จ ก็มาซื้อสมุนไพรลดไขมันได้

Advertisement

นอกจากนี้ นายอนุทินกล่าวว่า โดยรัฐบาลจะต้องเอื้อให้ภาคธุรกิจและสถานประกอบการ ถ้าไม่เอื้อแล้วจะเอาอะไรกิน เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดี ไม่ใช่ว่าจะต้องงอมือ งอเท้า โทษคนอื่น ไทยจะต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่ให้ประเทศมหาอำนาจมากำหนดอุปสงค์อุปทาน มองว่าหากคนไทยซื้อผลิตภัณฑ์ไทย ของไทยและสินค้าที่ผลิตในไทยใช้ ไม่ต้องไปซื้อของต่างชาติจากเกาหลี ยุโรป เพราะไทยมีดีทุกอย่าง ไมได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่น ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ ไม่ซื้อของนอก ขอให้เลิกบ้าแบรนด์ ไทยจะสามารถเติบโตขึ้นมาด้วยตนเองได้ เพราะทุกวันนี้ตนยังทาเซรั่มที่ไม่ได้มาจากแบรนด์ดัง กระปุกละ 1,000 กว่าบาท ทาแล้วรู้สึกหน้าตึงขึ้น

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ในกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มูลค่าเป็นล้านล้านบาท เราแก้ก็สามารถแก้ให้เศรษฐกิจดีได้ง่ายนิดเดียว ขอให้ใช้ทุกอย่างเมดอินไทยแลนด์ ทั้งผู้ก่อสร้างรับเหมา วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ไม่ใช่นำเข้าทุกอย่าง คนไทยก็ไส้แห้งตายไร้ประโยชน์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ รวมถึงการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ด้วยการแปรสภาพยางพาราให้เป็นวัสดุก่อสร้าง เช่น ที่กั้นแบริเออร์ คอนกรีตบล็อก เป็นต้น ถ้าทำแบบนี้ในโครงการหลายแสนล้าน รับรองราคายางขึ้นแน่นอน กระทบเป็นวงจร และเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นด้วย

Advertisement

ด้าน นพ.ประพนธ์กล่าวว่า รัฐบาลมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนกลางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาพืชสมุนไพรทั้งระบบ สร้างมูลค่าให้แก่ประเทศ ตามแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรฉบับที่ 1 (2560-2564) กำหนดให้เพิ่มมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพร 1 เท่าตัว จาก 1.8 แสนล้านบาท เป็น 3.6 แสนล้านบาท และเป็นผู้นำส่งออกเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน โดยปัจจุบันตลาดสมุนไพรในโลกมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูง คือ อาหารเสริมและเวชสำอาง โดยปี 2561 ไทยมีมูลค่าการบริโภคสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพร 2.8 แสนล้านบาท มูลค่าการส่งออก 2.24 พันล้านบาท และถูกจัดให้มีอัตราเติบโตทางเศรษฐฏิจด้านสมุนไพรเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยมีขมื้นชัน เป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนที่ได้รับความนิยมจากตลาดโลก มูลค่าการตลาดประมาณ 570 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.82 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ โครงการนำสมุนไรคุณภาพสู่ตลาดโลก ภายใต้แนวคิด ตำรับไทย มรดกโลก ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การอบรมและพัฒนาศักยภาพ การเจรจาจับคู่ธุรกิจกับบริษัทชั้นนำ การออกนิทรรศการแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ และ การเพิ่มช่องทางการขายในร้านค้าปลอดภาษีอากร และบนเว็บการค้าที่มีชื่อเสียง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image