“หมอหนู” ปัดโยกย้าย “เลขาธิการ อย.” ไม่เกี่ยวประกาศกัญชา ลั่นแค่ “ฟลุ๊ก” ชี้สลับตำแหน่งตามปกติ-เหมาะสมแล้ว
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประเภทบริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข 4 ราย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยเฉพาะ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปนั่งตำแหน่ง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) หลังจากเครือข่ายภาคประชาชน นักวิชาการ ได้วิพากษ์วิจารณ์การออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงนามท้ายประกาศโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 ว่าส่อล็อกสเปก และข้อกังวลการกำหนดปริมาณสารสกัดสำคัญ ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในบางประเด็นนั้น
นายอนุทินกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้โยกย้ายเพราะประเด็นเรื่องกัญชา แต่เป็นการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเป็นการโยกย้าย สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้าราชการระดับซี 10 ตามปกติ ซึ่งได้มีรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เกษียณอายุราชการ 2 ราย และตำแหน่งอธิบดี 1 ราย จึงเร่งแต่งตั้ง เพื่อไม่ให้การทำงานของกระทรวง สธ.หยุดชะงัก ซึ่งทั้งหมดรู้ตัวกันมาก่อนอยู่แล้วว่า ในอีกสองสัปดาห์ใครจะมาแทนข้าราชการเกษียณอายุราชการ รวมถึงให้คนที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้เตรียมตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งเกิดขึ้นภายหลังจากที่มีประกาศกระทรวงฯ ออกมาเพียง 4 วัน นายอนุทินกล่าวว่า “มันฟลุ๊ก เป็นเหตุอินซิเดนท์” ส่วนเหตุผลที่โยกย้ายเลขาธิการ อย.ไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรม สบส. เนื่องจาก นพ.ธเรศเคยดำรงตำแหน่ง รองอธิบดี สบส. จึงเป็นการโยกย้าย สับเปลี่ยนหมุนเวียนตามหน้าที่ ซึ่งตนก็ได้มีนโยบายเรื่องการพัฒนายกระดับอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ราว 1 ล้าน 5 หมื่นคน การขึ้นค่าตอบแทน และให้ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน รวมถึงการสนับสนุนการส่งเสริมการบริการสุขภาพ โดยเฉพาะการติดตามงานผู้รับเหมาทิ้งงานกว่า 10 ราย ล้วนเป็นเนื้องานที่อยู่ภายใต้สังกัดกรม สบส.
“ภารกิจเหล่านี้ นพ.ธเรศถึงกับร้องจ๊าก แต่ยืนยันว่าได้มองเห็นศักยภาพ ไม่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกัญชา ซึ่งเรื่องกัญชาเป็นเรื่องโคตรกระจอกเลย เพราะเป็นเรื่องหนึ่งในนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่มีเรื่องให้ทำกว่า 20-30 เรื่อง ถึงเวลาก็เป็นการสับเปลี่ยนงานให้ยืดเส้นยืดสายกันตามปกติ” นายอนุทินกล่าว และว่า ส่วนเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่มาจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่าการโยกย้ายเลขาธิการ อย. เนื่องจากทำสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนนั้น เรื่องนี้ตนไม่รู้เรื่อง เรื่องการเมืองก็ต้องไปฟังพรรค เรื่องสาธารณสุขไม่เกี่ยวกับพรรค มันไม่เกี่ยวกัน
เมื่อถามว่าการให้ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ.ไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการ อย.นั้น ต้องการให้ขับเคลื่อนเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีเรื่องใด เพราะสลับสับเปลี่ยนตามวาระ ให้ทุกคนมีการหมุนเวียนการทำงานภารกิจหน้าที่ ส่วน นพ.ธเรศก็เคยเป็นรองปลัดมาแล้ว ก่อนไปเป็นเลขาธิการ อย. แต่ยังไม่ได้ใช้คำว่าอธิบดีนำหน้า ในอนาคต นพ.ไพศาลก็อาจจะเป็นเหมือนกัน เอาไว้ 2-3 ปีก็ไปแข่งกันไปเป็นปลัด สธ.
“ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามวาระ แทนข้าราชการเกษียณ โดยการแต่งตั้งบุคลากรครั้งนี้เหมาะสมแล้ว จะสามารถทำงานที่เป็นประโยชน์ให้แก่ สธ. และจะได้เรียนรู้งานในทุกด้าน ซึ่งแต่ละคนก็มีอายุราชการเหลืออีกตั้ง 3-4 ปี เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกคนจะได้มีคุณสมบัติอย่างเพียบพร้อม และแข่งกันเป็นปลัดกระทรวง สธ.ต่อไป โดยสิ่งที่ผมจะทำวันนี้จะให้ซี 10 เป็นซี 10 ไม่ใช่ให้เป็นผู้ตรวจราชการถึงจะโต ผมไม่ได้ทำให้รองปลัดไปเป็นผู้ตรวจฯ โดยทุกคนได้รับความไว้วางใจให้ไปทำงานตามความสามารถอย่างเต็มที่ ผมดูคุณสมบัติของทุกท่านซึ่งแต่ละท่านก็มีคุณมากเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่ง พร้อมได้มอบหมายให้เลขาธิการ อย.คนใหม่ เพียงอย่างเดียวคือ อีโคโนมี ออฟ สปีด ทำอะไรทำให้เร็ว ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ทำเพื่อประชาชน และขอให้ อย.เป็นปากท้องของประชาชน อนุมัติเรื่องต่างๆ ให้รวดเร็ว” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.ธเรศ กล่าว่า ขอบคุณรัฐมนตรีที่ได้ให้โอกาสไปตำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งเคยอยู่มาก่อ พร้อมทั้งได้มอบหมายเรื่องสำคัญหลายเรื่อง ซึ่งเคยทำมาก่อน เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อนนโยบางของรัฐมนตรีได้อย่างเหมาะสม
