เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่โรงพยาบาล (รพ.) ชลบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชัน “CBH PLUS” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง รพ.ชลบุรี และธนาคารกสิกรไทย ในการพัฒนาแอพพ์ฯดังกล่าว พร้อมเชื่อมต่อฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ผู้ป่วยสามารถเช็คสิทธิรักษาพยาบาล 3 กองทุน ทั้งบัตรทอง บัตรประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ผ่านแอพพ์ฯ ได้เป็นครั้งแรกของไทยที่มีระบบระเบียนสุขภาพส่วนบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ให้เข้าถึงประวัติทางการแพทย์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ระบบจองคิวและบอกคิวที่อัพเดทสถานะปัจจุบัน (เรียลไทม์) ทำให้ผู้ป่วยใช้เวลาไปทำภารกิจอื่นก่อนถึงเวลาตรวจได้ แจ้งเตือนนัดหมายพบแพทย์ ระบบชำระเงิน และข่าวสารทางสุขภาพ
นายสาธิต กล่าวว่า รพ.ชลบุรี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่มีผู้มาใช้บริการอย่างแน่นหนาและแออัด จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นตรงกันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ลดความแออัด เนื่องจากมีผู้ใช้บริการทั้งที่อยู่ใน จ.ชลบุรี และประชากรแฝงเกือบล้านคน ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ ต้องรับภาระอย่างหนัก ซึ่งจะพยายามเข้ามาเน้นให้มีการใช้เทคโนโลยี สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยไอทีเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้ามาลดความแออัดได้ ซึ่งโรงพยาบาลทั่วประเทศได้มีความก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีมาใช้ลดความแออัดแล้ว และแต่ละส่วนของรัฐบาลก็มีความแตกต่างในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ โดยในอนาคต สธ. และ สปสช.จะนำฐานข้อมูลบัตรทอง 48 ล้านคนทั่ว มาเป็นข้อมูลบิ๊กดาต้าซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลสำคัญของประเทศ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก
นายสาธิต กล่าวว่า ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ หมอ และพยาบาล อย่าทิ้งเรื่องของเทคโนโลยี ขอให้พยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งในการลดขั้นตอนการให้บริการ การลดความแออัด ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชน จนทำให้ไทยติดอันดับโลกเป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพที่ที่สุดเป็นอันดับ 6 นำหน้าประเทศสเปน และฝรั่งเศส
สำหรับ แอพพ์ฯ “CBH PLUS” เป็นแอพพ์ฯ นำร่องใน รพ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของภาคตะวันออก มีผู้ป่วยเข้ารับบริการ จำนวน 1,050,297 คนต่อปี ผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการเฉลี่ยมากกว่า 4,000 รายต่อวัน และอนาคตจะสามารถเชื่อมต่อเพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมโรงพยาบาลทุกแห่งใน จ.ชลบุรี
