สสน.เผยอิทธิพลมรสุม ทำฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 24 ก.ย.

สสน.เผยอิทธิพลมรสุม ทำฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 24 ก.ย.

เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของประเทศไทยว่า ได้รับรายงานจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ถึงปริมาณฝนสะสมจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณตอนกลางของประเทศส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ปรากฏว่ามีฝนสะสม 7 วันตั้งแต่วันที่ 17-23 กันยายน ที่ผ่านมา มากกว่า 100 มิลลิเมตรแล้ว โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี แต่ถ้าวัดปริมาณฝนสะสมย้อนหลัง 24 ชั่วโมงวันที่ 23 กันยายน วันเดียวปรากฏว่า จ.ราชบุรี มีฝนตกมากถึง 108 มิลลิเมตร กาญจนบุรี 101 มิลลิเมตร ประจวบคีรีขันธ์ 90 มิลลิเมตร ชุมพร 76 มิลลิเมตร ส่วนกรุงเทพฯ 57 มิลลิเมตร ทั้งนี้ วันที่ 23-24 กันยายน ประเทศไทย ยังคงมีฝนจากแนวร่องมรสุม ส่งผลให้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีฝนสะสมมากและอาจเกิดน้ำหลากได้ ประกอบไปด้วย จ.ปราจีนบุรี นครนายก ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี และตอนบนของประจวบคีรีขันธ์

นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง อ.กบินทร์บุรี มีแนวโน้มสูงขึ้น และคลองพระปรง อ.เมือง จ.สระแก้ว ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับระดับน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำชี-มูล บริเวณ จ.ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นเวลานาน ส่วนลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ในเขต จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีน้ำเพิ่มขึ้นและไหลลงมาเติมในแม่น้ำมูลสายหลัก ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่ล้นท่วมบริเวณ จ.อุบลราชธานี แม้ยังคงมีแนวโน้มลดลงแต่อัตราการลดลงเริ่มชะลอตัว ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ อาจส่งผลให้ระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกติช้าออกไปถึงช่วงต้นเดือนตุลาคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image