เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ศาลาว่าการ กทม. นายปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ถูกคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครชุดใหม่ ที่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไล่ออกจากตำแหน่ง โดยให้ปฏิบัติงานวันสุดท้ายวันที่ 30 กันยายนนี้ สาเหตุเกิดจากกรรมการได้ประเมินผลการปฏิบัติงาน ไม่พอใจการแสดงความเห็นเรื่องการสนับสนุนงบประมาณของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้งการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งนี้ จะขอให้คณะกรรมการมูลนิธิเปิดเผยรายงานการประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเองด้วย สำหรับการถูกไล่ออกจากตำแหน่งดังกล่าวจะไม่มีการฟ้องร้องคดีความแต่อย่างใด ยืนยันว่าจะไม่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการให้มีการบันทึกเป็นการไล่ออกจากตำแหน่ง ส่วนตัวไม่เคยมีความคิดที่จะลาออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าเป็นงานในฝัน โดยอนาคตมีแผนจะเชื่อมโยงศิลปะทุกแขนงให้มาแสดงยังหอศิลป์กรุงเทพฯ
นายปวิตรกล่าวว่า ตำแหน่งผู้อำนวยการหอศิลป์กรุงเทพฯ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และมีการประเมินผลงานทุก 6 เดือน สัญญาแรกเริ่มงานครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม-วันที่ 31 สิงหาคม 2561 เมื่อผ่านการประเมินครั้งแรก ได้ทำสัญญาที่ 2 เริ่มงานวันที่ 1 กันยายน 2561 หมดสัญญาวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับหนังสือแจ้งผลประเมินว่าไม่ผ่านการประเมิน จึงขอเลิกสัญญาว่าจ้าง โดยให้มีผลวันที่ 30 กันยายนนี้
“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยมีสัญญาณว่าจะมีการปลดออกจากตำแหน่ง แต่มีคนเคยบอกว่าอาจเป็นเพราะเคยไปให้สัมภาษณ์เรื่องที่ กทม.ไม่สนับสนุนงบประมาณหอศิลป์กรุงเทพฯ ยืนยันว่าการให้สัมภาษณ์ต่างๆ เป็นการนำเสนอข้อมูลและผลการทำงานที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ส่วนที่ กทม.ระบุว่าตามสัญญาไม่สามารถให้งบสนับสนุนหอศิลป์กรุงเทพฯ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายรายวันได้ เพราะตามสัญญาหอศิลป์กรุงเทพฯ จะต้องจัดหารายได้มาจ่ายเอง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนหาแนวทางจัดหารายได้ สำหรับหอศิลป์กรุงเทพฯ ถูกบริหารงานโดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ภายใต้คณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย เป็นประธาน มีหน้าที่สรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหอศิลป์กรุงเทพฯ พร้อมทั้งสรรหาคณะกรรมการบริหารหอศิลป์กรุงเทพฯ มาทำหน้าที่บริหารการทำงานของหอศิลป์กรุงเทพฯ และมีคณะกรรมการที่ปรึกษา ที่มีผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานโดยตำแหน่ง ทำหน้าที่แต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร” นายปวิตรกล่าว
ด้านนายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นอำนาจของคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครโดยตรง แต่หากหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จะของบประมาณจาก กทม. จะต้องทำโครงการเสนอผ่านสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (สวท.) ก่อนเสนอสภากรุงเทพมหานครพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ยืนยันคณะผู้บริหาร กทม.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างเป็นอำนาจของคณะกรรมการมูลนิธิฯ
