สสส.ถอดบทเรียน ‘ลันลาเบล’ ปลุกสังคมตื่นรู้ ‘แข่งดื่ม’ เอาผิดได้

จากกรณีการเสียชีวิตของพริตตี้สาวพบข้อมูลการดื่มหนัก ดื่มเร็ว ที่อาจมีการจูงใจบังคับดื่มหรือแข่งดื่ม จนนำไปสู่การเสียชีวิต ชี้บริบทการกินดื่มที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันบนพื้นที่ส่วนตัว (ปาร์ตี้ที่บ้าน) สะท้อนให้เห็นสังคมคนกินคนในภาพใหม่ เห็นคนถูกบริโภค สูญเสียทางเลือก เห็นกฎหมายที่ตามด้านมืดของมนุษย์ไม่ทัน เห็นด้านมืดของความคิดที่สาดใส่กัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสังคมไทยจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร

ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และเครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ตั้งวงเสวนาในประเด็น “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับพฤติกรรมดื่มหนักดื่มเร็ว และการคุกคามทางเพศ” เพื่อถอดบทเรียนจากกรณีการเสียชีวิตของพริตตี้สาว “ลันลาเบล” หวังที่จะเปลี่ยนด้านมืดของสังคมให้สว่างขึ้นกว่าเดิม โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, นพ.ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง ผู้อำนวยการมูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อดีตสาวเชียร์เบียร์ที่คลุกคลีกับวงการพริตตี้สายเอน

นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ กล่าวในมุมของการเอาผิดทางอาญากับการบังคับบุคคลให้ถึงแก่ชีวิตว่า รูปแบบการดื่มในปัจจุบันค่อนข้างเปลี่ยนไปมาก หากเป็นลักษณะจัดแข่งขันดื่มกันเองที่บ้านที่ไม่ใช่เชิงประกอบธุรกิจ ไม่มีการเก็บ/จ่ายเงิน ระหว่างผู้ดื่มและผู้ชวนดื่ม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ยังไม่สามารถเอาผิดได้ แต่หากเป็นการดื่มในร้าน มีการเชียร์ให้ดื่ม แข่งดื่ม จัดโปรโมชั่น ส่งเสริมการขาย อันนี้ผิดมาตรา 30 และมาตรา 32 แน่นอน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนกรณีลันลาเบลมีโทษทางอาญาร่วมด้วย เพราะทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

Advertisement

“ปาร์ตี้ส่วนตัว ทำกันเอง ไม่ได้มีการจ่าย ก็มีกฎหมายอาญาอยู่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องกับการดื่มแล้วตาย โทษเบาสุดคือกระทำโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือทำให้ได้รับอันตราย บาดเจ็บสาหัส แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เป็นร้านแต่ให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ มีการเก็บเงิน จัดว่าเป็นธุรกิจ ตามคำสั่ง คสช.22/2558 สถานที่ที่ให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ จะควบคุมตามกฎหมายสถานบริการ ซึ่งขณะนี้ก็เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มีการปรับเพิ่มอนุบัญญัติให้สอดรับกับสถานการณ์การดื่มที่เปลี่ยนไป โดยจะเน้นไปที่การประกอบธุรกิจในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ การปาร์ตี้รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจรวมไปถึงการควบคุมวิธีการบริโภค การแข่งกันดื่ม บังคับดื่มด้วย” นพ.พงศ์ธรกล่าว

ด้าน น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง กล่าวว่า ตราบใดที่โครงสร้างสังคมไทยยังมีมายาคติเกี่ยวกับการดื่มที่แตกต่างระหว่างเพศ เช่น เมื่อผู้ชายเมาทำร้ายร่างกายภรรยา คนในสังคมจะมองว่าเพราะเขาเมาเลยทำให้ขาดสติ แต่ในทางกลับกันอย่างคดีของลันลาเบล สังคมจะมองว่าก็ทำอาชีพแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้แล้วใครก็สามารถล่วงละเมิดทางเพศได้ หรืออาจจะมองไปว่าเป็นความผิดของผู้หญิงที่พาตัวเองไปในที่แบบนั้น ก็คล้ายกับว่าสังคมยังมีใบอนุญาตให้มีการคุกคามทางเพศ หรือละเมิดทางเพศได้ ทางออกส่วนหนึ่งที่จะปิดใบอนุญาตนี้คือ ต้องมีกติกาในสังคมที่ให้พนักงานบริการทุกประเภท มีความเป็นวิชาชีพ มีสวัสดิการ มีหลักประกันสุขภาพ อย่างเป็นธรรม และมีกฎหมายคุ้มครองแรงงาน รวมถึงต้องรณรงค์ที่มากกว่าการบอกโทษของสุรา เช่น จะจัดการกับสุขภาพอย่างไร ดื่มอย่างไร แต่งตัวอย่างไร ไม่ให้มีผลกระทบ เป็นต้น

Advertisement

เช่นเดียวกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ที่มองว่า อาชีพการเอนเตอร์เทนลูกค้าของกลุ่มพริตตี้นั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลวนลามคุกคามทางเพศ ซึ่งคนที่เข้ามาในวงการนี้ก็เพื่อหาเงินเรียน เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัว มองเป็นวิธีหาเงินที่ใช้เวลาไม่มาก ไม่เหนื่อย จึงไม่อยากให้สังคมมองคนทำอาชีพนี้แบบเหมารวม เพราะพวกเขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน

ถึงกระนั้นการดื่มสุราก็ถือเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย มีการดื่มสุราสอดแทรกอยู่ในเกือบทุกงานสังสรรค์ แต่สิ่งสำคัญคือ ทุกคนควรจะต้องรู้จักปฐมพยาบาลคนเมาสุรา ซึ่งหากพบเห็นใครที่มีอาการดื่มเกินปริมาณส่งผลต่อประสาท การเคลื่อนไหว เสี่ยงต่อการหยุดหายใจ

เบื้องต้น นพ.ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร แนะว่า ต้องจัดท่านอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก โดยให้รักษาระดับศีรษะและคอให้เท่าๆ กัน ค่อยๆ พลิกตัวให้นอนหงาย พยายามเรียกชื่อดังๆ ให้ลืมตากว้าง ลองจิ้มที่ตัวเพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนอง มองที่อกหรือท้องเพื่อดูจังหวะการหายใจ หายใจช้าลงหรือติดขัด ร่างกายไม่ตอบสนองให้ทำซีพีอาร์ แล้วเรียกรถพยาบาลหรือนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ถ้าเจอเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับดื่มเกินมาตรฐานแต่ยังพอรู้เรื่อง ควรให้หยุดดื่ม และดื่มน้ำเพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้น อาจจะจิบน้ำหวานนิดหน่อยเพื่อให้สดชื่นขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดื่มหนักดื่มเร็ว ดื่มสุราแล้วเสียชีวิต เฉกเช่นเหตุการณ์ของลันลาเบลไม่ใช่ครั้งแรกดังนั้น ทางออกของปัญหาเหล่านี้คงไม่ใช่การบอกแค่ว่าอย่าดื่ม หรือไม่พาตัวเองไปในที่เสี่ยงเท่านั้น การปลูกฝังค่านิยมที่เอื้อให้เกิดการเคารพซึ่งกันและกัน ก็ย่อมเป็นสิ่งสำคัญด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image