เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ศ.ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ นักวิชาการด้านกฎหมายสุขภาพ และคณะทำงานพัฒนาศักยภาพนักวิจัย ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เปิดเผยว่า ล่าสุดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ประกาศเตือนประชาชนให้หยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด หลังพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำเสียชีวิตแล้ว 33 ราย ป่วย 1,479 ราย ซึ่งขณะนี้สหรัฐ และแคนาดามีคดีฟ้องร้องบริษัทบุหรี่ไฟฟ้าถึง 1,300 คดี โดยผู้ฟ้องคือ ผู้ปกครองของเยาวชนที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และโรงเรียนต่างๆ ได้ฟ้องร้องบริษัทที่ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าฐานล่อลวงเยาวชนทำให้ป่วยและเสียชีวิต
“เช่น เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชนในรัฐอิลลินอยส์ ชิคาโก ฟ้องบริษัทบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและเสพติดนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้า” ศ.ฉัตรสุมน กล่าวและว่า ทั้งนี้ เหตุผลฟ้องที่ศาลจะพิจารณาว่าเป็นการคุกคามต่อการเจ็บป่วยของประชาชน ได้แก่ ความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ ความล้มเหลวคำเตือนเรื่องสุขภาพ ความผิดพลาดจากการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะประเด็นปกปิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ศ.ฉัตรสุมน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลอินเดียประกาศห้ามบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หลายประเทศกำลังตื่นตัว และเตรียมทบทวนการควบคุมของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน และมาเลเซียกำลังจะห้ามบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดเช่นกัน เพราะหวั่นเกรงผลกระทบต่อเยาวชนและสุขภาพของคนในประเทศ สำหรับไทยต้องชื่นชมหน่วยงานภาครัฐที่มีมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทั้งการห้ามนำเข้า ขาย บริการ และครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้ไทยไม่ต้องประสบปัญหาการฟ้องคดีดังกล่าวข้างต้นอันเกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า