คพ.เผย ‘รถขนาดใหญ่’ ยังปล่อยควันดำกว่า 30%

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ ทส. ได้เร่งรัดให้ คพ.ตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำตามมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 จากการปฏิบัติงานในเดือนตุลาคม 2562 คพ.ได้บูรณาการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สรุปผลการปฏิบัติมีการเรียกรถตรวจสอบควันดำ รวม 591 คัน เป็นรถขนาดใหญ่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 447 คัน มีควันดำเกินค่ามาตรฐานจำนวน 149 คัน คิดเป็นร้อยละ 33 รถยนต์ส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 เรียกตรวจ 144 คัน มีควันดำเกินค่ามาตรฐานจำนวน 33 คัน คิดเป็นร้อยละ 23

นายประลองกล่าวว่า รถที่มีการปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน เจ้าพนักงานจราจรได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว 182 คัน ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน 33 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวและติดครื่องหมาย “ห้ามใช้ชั่วคราว” ไว้ที่ตัวรถ เจ้าของหรือผู้ขับขี่จะต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขแล้วนำรถมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งภายในเวลา 30 วัน หากมีการปล่อยควันดำเป็นไปตามมาตรฐาน พนักงานเจ้าหน้าที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว และนำเครื่องหมาย “ห้ามใช้ชั่วคราว” ออกจากตัวรถ กรณีที่การฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะของพนักงานเจ้าหน้าที่จะมีโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท ตามมาตรา 102 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535

นายประลองกล่าวต่อไปว่า คพ.ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกโดยทำงานร่วมกับ บก.จร.ตรวจสอบควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก.ที่อู่เดินรถตามเขตต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมที่แหล่งกำเนิดมลพิษ โดยในเดือนตุลาคม 2562 ตรวจสอบควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก.จำนวน 246 คัน พบควันดำเกินมาตรฐาน 3 คัน และหากตรวจพบรถมีการปล่อยควันดำเกินกว่าร้อยละ 30 จากค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 45 จะแจ้งให้เขตการเดินรถนำรถคันดังกล่าวไปปรับปรุงแก้ไขก่อนนำออกมาวิ่งบริการ

Advertisement

“คพ.มีแผนการทำงานตรวจสอบควันดำรถโดยสาร ขสมก.ในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง และจะขยายการตรวจสอบเพิ่มประเภทรถสองแถวที่วิ่งตามซอยต่างๆ (รถหมวด 4) รวมทั้งขยายพื้นที่การตรวจควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก.ครอบคลุมพื้นที่ปริมณฑลในเขต จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และ จ.นครปฐม โดยจะประสานกรมการขนส่งทางบกเข้าร่วมปฏิบัติงานในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ควบคู่ไปกับการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ” นายประลองกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image