จากกรณีที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอให้เลื่อนการแบนสารพิษออกไปอีก 6 เดือนนั้น
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ต้องย้อนทบทวนว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีความพยายามจะแบนสารพิษมาตั้งแต่ปี 2560 ถึงขั้นควบคุมการใช้ เป็นสัญญาณแล้วว่าประเทศไทยกำลังจะแบนสารพิษ
“แต่กลับมีการนำเข้ามาสต็อกเพิ่ม ขอถามว่าใครผิด ใครถูก ที่ต้องพูด เพราะว่าการแบนสารพิษที่กำลังผลักดันนั้น ไม่ได้คิด และทำอย่างปุบปับ แต่เราทำตามมติเดิม ส่วนที่กรมวิชาการเกษตร มีข้อเสนอออกมานั้น ชัดเจนอยู่แล้วว่ากรมวิชาการเกษตรไม่ได้เชื่อฟังรัฐมนตรีที่กำกับดูแลอย่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ถ้าหน่วยงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่สั่งอย่างถูกกฎหมาย และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จะต้องจัดการอย่างไร น.ส.มนัญญาอาจจะต้องแสดงสปิริตบางอย่าง หรือคืนกรมวิชาการเกษตรไป แล้วนำกรมใหม่มาดูแล ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ น.ส.มนัญญา ในการตัดสินใจเรื่องนี้ว่าจะเดินหน้าอย่างไร ซึ่งทุกอย่างจะชัดเจน หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องชะลอการแบนออกไปตามข้อเสนอของกรมวิชาการเกษตร สธ.และพรรคภูมิใจไทย จะเดินหน้าต่ออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของ สธ. อย่างไรเสีย ต้องยืนยันการแบน เพราะเป็นพันธกิจของกระทรวงในการดูแลสุขภาพของประชาชน
“หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติไม่แบน แต่ทำตามกฎหมาย เราจะไปทำอะไรได้ เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะเลื่อน หรือจะยกเลิกแบน และเขาทำตามอำนาจหน้าที่ของเขาอย่างถูกกฎหมาย เราก็ได้แต่บอกว่าไม่เห็นด้วย เพราะที่สุดแล้ว การตัดสินใจเรื่องสารพิษข้างต้น เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย” นายอนุทิน กล่าว
