อภ.เตรียมยาต้านไวรัสรองรับบริการ ‘เพร็พ’ นำร่อง 51 รพ. สกัดเอดส์ในกลุ่มเสี่ยง เริ่ม 1ม.ค.63

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ปรับปรุงรายการบริการในสิทธิประโยชน์การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ก่อนการสัมผัสเชื้อ (Pre-Exposure Prophylaxis) หรือเพร็พ (PrEP) กลุ่มเสี่ยงสูงทุกกลุ่ม ในพื้นที่มีความพร้อม โดยเปิดให้บริการนำร่องในสถานพยาบาล 51 แห่ง ใน 21 จังหวัด ให้บริการเพร็พด้วยยาทีโน-เอ็ม (TENO-EM) สำหรับกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 2,000 ราย ด้วยงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดย อภ.ได้มีการจัดเตรียมยาทีโน-เอ็ม ไว้พร้อมสำหรับการบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า การให้บริการเพร็พ เป็นการให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี ก่อนมีการสัมผัส (Pre-Exposure) ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพื่อป้องกัน (Prophylaxis) การติดเชื้อเอชไอวีจากการสัมผัส เพื่อนำยาเข้าสู่กระแสเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆให้มีระดับเพียงพอก่อนสัมผัสเชื้อเอชไอวี ปัจจุบันมีวิธีป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การใช้เข็มที่สะอาด การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย การป้องกันเอชไอวีจากแม่สู่ลูก การคัดกรองและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น ซึ่งการที่จะสามารถยุติปัญหาการเพิ่มปริมาณของผู้ป่วยเอชไอวีได้ทางหนึ่ง คือ การให้ผู้ป่วยใช้ยาต้านไวรัสก่อนการสัมผัสเชื้อ ซึ่งเป็นการป้องกันการติดเชื้อด้วยยาต้านไวรัสก่อนการได้รับเชื้อ หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า เพร็พ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี โดยการกินยาต้านไวรัสทุกวันก่อนสัมผัสเชื้อ จะทำให้มีประสิทธิผล ทำให้ในการลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในผู้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี โดยพบสูงถึงร้อยละ 92 หากมีการกินยาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณปีละ 6,300 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 15 ราย

Advertisement

“อภ.ได้คิดค้น วิจัย และผลิตยาทีโน-เอ็ม เป็นยาต้านไวรัสเอดส์สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยเอดส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 และจนปี 2561 ยาทีโน-เอ็ม ได้รับอนุมัติข้อบ่งใช้ เรื่องการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี/เอดส์ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้มีสถานพยาบาลบางแห่งได้เริ่มเปิดให้บริการยาทีโน-เอ็ม กับกลุ่มเสี่ยงต่างๆในข้อบ่งใช้การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี” นพ.วิฑูรย์ กล่าวและว่า สำหรับยา ทีโน-เอ็ม ใน 1 เม็ดประกอบด้วยยา 2 ชนิดรวมกัน คือ Tenofovir disoproxil fumarate 300 มิลลิกรัม และ Emtricitabine 200 มิลลิกรัม กลุ่มเสี่ยงกินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรกินอย่างต่อเนื่องก่อนสัมผัสเชื้อประมาณ 7 วัน

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ยาเพร็พออกฤทธิ์นาน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร มีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นน้อย มีความปลอดภัย สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ มีประสิทธิผลในการป้องกันเอชไอวีในทุกกลุ่ม ขึ้นอยู่กับว่ากินยาได้สม่ำเสมอเพียงใด นับเป็นสูตรยาต้านเอชไอวีที่แนะนำเป็นสูตรแรกและสูตรทางเลือก บางกรณีหลังจากกินยาแล้วอาจพบอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ปวดท้อง น้ำหนักลด ซึ่งอาการจะดีขึ้นหรือหายไปหลังจากเดือนแรก จึงไม่ต้องกังวล และเพื่อความมั่นใจว่าไม่มีการติดเชื้ออย่างแน่นอน สามารถกินต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ หลังความเสี่ยงครั้งสุดท้ายแล้ว ก็สามารถหยุดกินยาได้ โดยให้ตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีก่อนหยุดยาเพร็พทุกครั้ง และหากมีพฤติกรรมเสี่ยงให้รีบกลับมาตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีซ้ำ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image