กรมป่าไม้ แจก “เมล็ดไม้มีค่า หน้าอำเภอ” 23 ชนิด เป็นของขวัญปีใหม่

แจก “เมล็ดไม้มีค่า หน้าอำเภอ” 23 ชนิด ทั้ง ประดู่บ้าน พะยูง แดง มะค่าโมง 5 ล้านเมล็ด 101,010 ซอง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ 28 ธ.ค.2562 – 1 ม.ค.2563 สนองนโยบาย “ปลูกได้ ตัดได้ ขายได้” พร้อมเร่งประกาศเขตพื้นที่ คทช. มอบให้ประชาชนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ เตรียมของขวัญเพื่อส่งมอบความสุขให้ประชาชน เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น ได้แก่ ชิ้นที่ 1. เมล็ดไม้มีค่า 23 ชนิด จำนวนกว่า 5 ล้านเมล็ด บรรจุในซองของขวัญที่กรมป่าไม้จะได้นำไปมอบให้พี่น้องประชาชนจำนวน 101,010 ซอง โดยจัดแคมเปญมอบของขวัญชิ้นนี้ว่า “เมล็ดไม้มีค่า ที่หน้าอำเภอ” เช่น ประดู่บ้าน พะยูง แดง มะค่าโมง เป็นต้น พร้อมทั้งบอกวิธีการเพาะชำเมล็ดไม้ การปลูก การดูแลรักษาต้นไม้ทุกชนิดเพียงแค่สแกนคิวอาร์โค๊ท ที่อยู่บนซองที่บรรจุเมล็ดไม้ โดยมอบให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ประจำอำเภอ ที่ทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเป็นผู้นำของขวัญชิ้นนี้ไปมอบให้พี่น้องประชาชนในทุกอำเภอ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 นับจากภายหลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล๊อคมาตรา 7 ทำให้ต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายที่ดิน และอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ไม่เป็นไม้หวงห้ามอีกต่อไป ประชาชนสามารถปลูกได้ ตัดได้ และขายได้ กรมป่าไม้ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการปลูกไม้มีค่าที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนได้รับโชคถึง 6 ต่อ ต่อที่ 1 ในเรื่องของการมีไม้ไว้ใช้สอยในอนาคต ต่อที่ 2 สามารถตัดขายเพิ่มรายได้จากความต้องการทางด้านอุตสาหกรรมไม้ที่มีความต้องการสูง ต่อที่ 3 ต้นไม้ยืนต้น สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันได้ ต่อที่ 4 การปลูกต้นไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ที่ว่างเปล่าสามารถช่วยลดภาษีที่ดินได้ ต่อที่ 5 การปลูกไม้มีค่าจะเป็นเหมือนการออมเงินให้กับตนเองและส่งต่อให้กับลูกหลาน เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตจะสร้างมูลค่ามากมายในอนาคต ต่อที่ 6 ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศอีกทางหนึ่งจึงนับเป็นของขวัญมีค่าที่กรมป่าไม้ตั้งใจมอบให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

ด้านนางนันทนา บุณยานันต์ โฆษกกรมป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ของขวัญชิ้นที่ 2 กรมป่าไม้จะตั้งจุดพักสำหรับบริการประชาชนที่เดินทางระหว่างช่วงเทศกาลปีใหม่ รวม 197 จุด ในพื้นที่ 24 จังหวัดทั่วประเทศ จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการไว้ค่อยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2562 – 1 ม.ค. 2563 ชิ้นที่ 3 การจัดกิจกรรม “ปีใหม่หรรษา มาเที่ยวป่าในเมือง” ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค.2563 จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว จ.เชียงใหม่ 2. สถานีวนวัฒนวิจัยอินทขิล จ.เชียงใหม่ 3. สวนป่าพุแค จ.สระบุรี 4. สถานีวนวัฒวิจัยห้วยทา จ.อุบลราชธานี 5. โครงการพัฒนาป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ จ.เพชรบุรี 6. ป่าในเมืองเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี 7. ป่าในเมืองป่าปอม คลองสองน้ำ จ.กระบี่ 8. ป่าในเมืองศูนย์วนวัฒนวิจัยภาคใต้ จ.สงขลา และ 9. สถานีวนวัฒนวิจัยสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

Advertisement

 

โดยแต่ละแห่งจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ (Green Market) จากชาวบ้าน ซึ่งเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ในพื้นที่และเป็นสินค้าเด่นในตำบล (OTOP) รวมทั้งพืชผักสวนครัวมาจัดจำหน่ายกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่แวะเข้ามาพักผ่อน การแสดงดนตรีพื้นเมือง ตลอดจนจัดห้องเรียนรู้เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมปั่นจักรยานปลอดภัย และบริการพื้นที่ประกอบกิจกรรมปิกนิก เป็นต้น และชิ้นที่ 4 กรมป่าไม้ จะเร่งประกาศเขตพื้นที่ คทช. เพื่อมอบให้เป็นของขวัญกับพี่น้องประชาชนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 ตามกรอบแนวทางการแก้ปัญหาที่ทำกินให้พี่น้องประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image