เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม นายธรรมรัตน์ มุกมีค่า ผู้อำนวยการสำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยเตรียมออกประกาศในเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งในประกาศดังกล่าวจะระบุชัดเจนว่าคอนโดมิเนียม ห้องชุด บ้าน โรงเรือน อาคาร ตึก ตึกแถว หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด แม้ให้เช่าแต่หากนำไปใช้ที่อยู่อาศัย จะเสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย โดยให้ดูลักษณะการใช้ประโยชน์ว่าเป็นการให้บุคคลใช้เพื่อการอยู่อาศัยเป็นสำคัญ ว่า เพิ่งทราบจากข่าว แต่ขอให้มีหนังสือแจ้ง กทม.อย่างเป็นทางการ เพราะ กทม.ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับนโยบายมาปฏิบัติ ซึ่งหลังจากนี้ เมื่อมีประกาศฉบับใหม่ ประชาชนก็มีหน้าที่ไปเสียภาษีตามกำหนดเท่านั้น
“ที่ผ่านมา รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ของ กทม.ทั้ง 50 เขตอย่างมาก เพราะต้องทำงานเรื่องนี้กันอย่างหนัก เพราะมีห้องชุดอยู่ในพื้นที่มากถึง 9 แสนยูนิต และเห็นใจประชาชนที่ต้องเดินทางไปยื่นหลักฐานต่างๆ ด้วยความวิตกกังวลที่สำนักงานเขตด้วย จากนี้ไปเมื่อมีประกาศใหม่จะช่วยให้ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น ประชาชนก็มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินตามอัตราที่สำนักงานที่ดินได้แจ้งไว้กับสำนักงานเขตเท่านั้น” นายธรรมรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากห้องใดมีการให้เช่า แต่ผู้เช่าไม่ได้ทำเป็นที่อยู่อาศัย ใช้เป็นสำนักงาน ร้านค้าแทน กทม.จะดำเนินการอย่างไร นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า หากเป็นพื้นที่ชั้นล่างของคอนโดฯ ก็สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน แต่หากเป็นห้องที่อยู่ชั้นบน ก็ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ก็ต้องดำเนินการไปตามที่มีเอกสารหลักฐานแจ้งไว้ และในช่วงปีแรกของการเก็บภาษีดังกล่าว ส่วนใหญ่จะต้องให้จ่ายในอัตราที่อยู่อาศัยไปก่อน เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
เมื่อถามว่า มีเจ้าของห้องบางรายรู้สึกกังวลที่มีการแจ้งครอบครองพื้นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เช่น ไม่ได้รวมการครอบครองพื้นที่ระเบียงห้อง นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า สา เหตุที่ตัวเลขการครอบครองพื้นที่ของเจ้าของบางรายไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะ กทม.ใช้ตัวเลขจากสำนักงานที่ดิน
“สำนักงานที่ดินให้ตัวเลขมาเท่าใด กทม.ก็คิดเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นผลประโยชน์ของประชาชน เพราะแม้จะไม่ได้นับรวมพื้นที่ระเบียง แต่ในความเป็นจริงคนอื่นก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ระเบียงห้องนั้นได้ และเมื่อจ่ายภาษีก็คิดอัตราร้อยละ 0.02 เท่านั้น” นายธรรมรัตน์ กล่าว
