“แอร์เอเชีย” จ่อแนะผู้โดยสารเลื่อนเดินทาง-ระงับเที่ยวบิน “อู่ฮั่น” หลังไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาด

กรณีเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศปิดระบบเครือข่ายขนส่งมวลชนของเมือง เนื่องจากมีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองอู่ฮั่น ขอให้พลเมืองงดการเดินทางเข้า-ออกเมือง รวมไปถึงการระงับเที่ยวบินที่ออกจากเมือง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.มีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะมีการประสานงานมายังประเทศไทย และยังเตรียมเฝ้าระวังล่วงหน้าก่อนที่ทางการจีนจะเริ่มทยอยเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ยืนยันว่าไทยยังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวทั้งสิ้น 4 ราย และไม่มีอาการที่รุนแรง โดยใน 2 รายแรกรักษาจนอาการหายเป็นปกติและดำเนินการส่งตัวกลับจีนไปแล้ว ส่วนอีก 2 ราย อยู่ในระหว่างการตรวจร่างกายและรอผลจากห้องปฏิบัติการ (แล็บ) หากไม่พบเชื้อหรือสารพันธุกรรมไวรัสก็จะทำการส่งตัวกลับบ้านได้

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อวว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลจากทางการประเทศจีนว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่สามารถติดต่อจากคนสู่คน แต่ อย่างไรก็ตามในส่วนของประเทศไทยที่ทำการตรวจร่างกายของผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งหมด อาทิ ญาติ ผู้โดยสารข้างเคียงที่นั่งมาในเที่ยวบินเดียวกัน ไม่พบอาการของระบบทางเดินหายใจ และผลทางการตรวจในห้องปฏิบัติการก็ไม่พบสารพันธุกรรม ซึ่งหมายความว่าอาจจะมีรายงานที่ประเทศจีนแต่ในส่วนของประเทศไทยนั้นโอกาสที่จะเกิดการติดต่อคนสู่คนยังไม่พบรายงานดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการตั้งรับอย่างไรในการระงับเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ทางการจีนได้ยกระดับการป้องกันโดยการจำกัดการเดินทางเข้า-ออก ของเมืองอู่ฮั่น ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่จะเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นมายังประเทศไทย มีจำนวนน้อยลง เนื่องจากประเทศจีนได้ระงับเที่ยวบิน เช่น สายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ที่ระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้า-ขาออก สายการบินแอร์ไชน่าระงับเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่นมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ สายการบินไชน่าอีสเทิร์น ที่เป็นเครื่องบินเหมาลำระงับการให้บริการ และในส่วนของประเทศไทย ขณะนี้มีสายการบินแอร์เอเชียอยู่ระหว่างการประชุมหารือกัน ซึ่งจะมีแนวทางตามมาตรฐานสากลคือ จะต้องทำการเตือนลูกเรือ ผู้โดยสาร ที่จะต้องการเดินไปเมืองอู่ฮั่น โดยแนะนำให้เลื่อนการเดินทางออกไป ปกติแล้วในสถานการณ์เช่นนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องรอให้ทางสายการบินเป็นผู้ประกาศต่อไป

Advertisement

“แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางการจีนได้ประกาศ การจัดการภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดการของประเทศอื่นโดยรอบ ซึ่งมาตรการของประเทศไทยได้ทำการรองรับไว้หมดแล้ว ดังนั้นมาตรการที่ประเทศจีนยกระดับการป้องกัน ระงับการเข้า-ออกเมือง จะเป็นการช่วยลดภาระงานแง่ของจำนวนผู้ที่เดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นมายังประเทศไทยโดยตรงก็จะมีจำนวนที่น้อยลงไปด้วย ซึ่งที่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อนอกเมืองอู่ฮั่น ส่วนนี้จะต้องเป็นหน้าที่ของทางการจีน ในการเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบหรือที่เรียกว่าสอบส่วนทางระบาด เพื่อดูว่าผู้ป่วยที่เกิดในพื้นที่อื่นเป็นการติดมาจากเมืองอู่ฮั่นหรือเป็นการติดจากในพื้นที่ ซึ่งจะต้องรอให้ทางการจีนเป็นผู้ประกาศต่อไป” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

เมื่อถามว่าในขณะนี้องค์การอนามัยโลกมีการประกาศเรื่องใดเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ต้องรอให้องค์การอนามัยโลกโดยกฎอนามัยระหว่างประเทศ ทำการประชุมและประกาศภาวะฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) ซึ่งหากมีการประกาศแล้วก็จะคำแนะนำตามมาเป็นระดับชั้น เช่น จำกัดการเดินทาง โดยขณะนี้องค์การอนามัยโลกได้มีการประกาศชื่นชมระบบการป้องกันของประเทศไทยว่ามีความพร้อม เนื่องจากเราได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่มีข่าวของการติดเชื้อจากเมืองอู่ฮั่น ที่ได้เริ่มจากระดับที่ 1 มาจนถึงการคาดว่าอาจจะติดเชื้อจากคนูสู่คนจึงได้ยกระดับการป้องกันมาเป็นระดับ 3 สูงสุด

“เชื่อว่าคำแนะนำที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศนั้น จะมาช่วยสนับสนุนส่งเสริมในมาตรการตั้งรับของเรา ความรุนแรงหลังจากนี้จะต้องติดตามสถานการณ์ จากทางการของประเทศจีน และเรายืนยันว่าไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโดยเกิดจากประเทศเราโดยตรง ซึ่งผู้ป่วยที่ยืนยันทุกรายเป็นผู้ป่วยที่เกิดการติดเชื้อจากภายนอกประเทศ แต่มามีอาการและตรวจพบเชื้อภายในประเทศไทย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image