แฟ้มภาพ
“ศปก.พป.”จ่อลุยเคลียร์โฉนดทับ “เขาใหญ่” ทั้งยวง รออุทยานฯรวบรวมข้อมูลสารบบที่ดินอีก 1-2 สัปดาห์ “เสธ.ช้าง” ยกเคส “ภูขี้ไก่”เพชรบูรณ์เป็นต้นแบบ กรมที่ดินยอมเพิกถอนโฉนด 107 แปลงเนื้อที่กว่า 3,500 ไร่คืนเป็นป่า ลั่นขับเคลื่อนจนกว่าจะเพิกถอนโฉนดเขาใหญ่ อะไรที่ซุกไว้ใต้พรมต้องรื้อให้หมด ด้าน “ดำรงค์ พิเดช”ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า เก็บข้อมูลรายงาน กมธ.ที่ดินฯ
เมื่อวันที่ 28 มกราคม จากกรณีเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่รวม 7 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 24 ไร่ โดยพบว่าเป็นของนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีและบุตรสาวที่เป็นรมช. ในรัฐบาลนั้น โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีและตรวจสอบสารบบที่ดินขยายผลเบื้องต้นพบว่ามีการนำพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ไปออกโฉนดตั้งแต่บริเวณด่านเนินหอมอ.เมืองยาวไปจนถึงอ.ประจันตคามจำนวนมากนั้น
ล่าสุด พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวทางกรมอุทยานฯ และอุทยานฯเขาใหญ่ กำลังรวบรวมข้อมูลสารบบที่ดินทั้งหมดทุกแปลง แล้วก็จะประสานทางตนลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมดอีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ตอนนี้กำลังเตรียมข้อมูลและวางแผนปฏิบัติการร่วมกันอยู่ เราจะเอาทีเดียวทั้งหมด โดยเป้าหมายหลักคือการบุกรุกออกโฉนดในเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ก่อน จากนั้นจะดำเนินการในส่วนที่คาบเกี่ยวเขตพื้นที่กรมป่าไม้ ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะทำในนามของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า หรือ ศปก.พป. ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้จะมีการประสานทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมาร่วมด้วย เพราะมีในเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ
พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนที่ตนได้เข้าไปร่วมดำเนินการกรณีนายทุนบุกรุกป่าภูขี้ไก่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี 2561-2562 ที่ผ่านมา ล่าสุดกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งเพิกถอนที่ดินบริเวณดังกล่าว 107 แปลง เนื้อที่กว่า 3,500 ไร่ ดังนั้นกรณีอุทยานฯ เขาใหญ่เราจึงตั้งใจว่าจะดำเนินการให้เหมือนกับกรณีภูขี้ไก่ คือขับเคลื่อนจนกว่าจะเพิกถอนเอกสารสิทธิโดยจะทำให้พื้นที่ที่เขาใหญ่เป็นแบบเดียวกัน
“ในส่วนของภูขี้ไก่ดีเอสไอก็มีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องด้วย และเขาก็ส่งให้ปปท. ดำเนินการต่อ เรื่องนี้ดีเอสไอสรุปตั้งแต่ปี 2552 แต่เรื่องก็เงียบ แต่พอเปิดประเด็นขึ้นมา ก็นำมาปัดฝุ่นกันอีก และภายใน 78 วันก็เพิกถอนเสร็จแล้ว เรื่องเก่าที่ซุกพรมไว้ถึงเวลาต้องเปิดแล้ว ต้องรื้อทั้งหมดเพราะที่ผ่านมามีการปกปิดกันเอาไว้”พ.อ.พงษ์เพชร กล่าว
ด้านนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะพรรครักษ์ผืนป่าฯ สัปดาห์หน้าตนจะลงพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ เพื่อตรวจสอบบริเวณที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีไปแล้ว และบริเวณที่คาดว่ามีการบุกรุกนำพื้นที่ป่าเขาใหญ่ไปออกโฉนดตั้งแต่บริเวณด่านเนินหอมไปถึงอ่างเก็บน้ำคลองไม้ปล้อง ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเรียกหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อไป
ดำรงค์ พิเดช
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า อย่างที่ตนได้เคยพูดไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญ เพราะพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่เป็นพื้นที่มรดกโลก แต่กลับมีการนำพื้นที่ไปออกโฉนดได้ ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยชี้แจงมาตรการในการดูแลพื้นที่อย่างสวยหรู แต่วันนี้กลับมีการบุกรุกเกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงและคณะกรรมการมรดกโลกอาจนำเรื่องสถานะมรดกโลกในภาวะอันตรายของอุทยานฯ เขาใหญ่กลับมาพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ตนได้เรียกร้องต่อรัฐบาลไปแล้วว่าขอให้ตั้งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ และชี้แจงผลให้ประชาชนทราบ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะดำเนินการหรือไม่ ส่วนกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ วันนี้ก็ให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน แต่หากยังไม่มีความคิดหน้าเร็วๆ นี้ตนก็จะออกมาแถลงติดตามอีกครั้ง
