“อียู” ร่วมถกแก้ปัญหาด้านแรงงานไทย ให้ความคุ้มครองลูกจ้างภาคประมง

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และ นายโยสต์ โคร์เทอ (Mr. Joost Korte) Director General กระทรวงการจ้างงาน กิจการสังคม และการหลอมรวมทางสังคมแห่งสหภาพยุโรป (Directorate-General for Employment, Social Affairs and Inclusion (DG EMPL) เป็นประธานร่วมในการประชุมระดับสูงด้านแรงงานระหว่างไทยและสหภาพยุโรป ครั้งที่ 2 (Thailand – EU Labour Dialogue, 2nd High-Level Meeting) โดยมี นายปีร์กะ ตาปีโอละ (Mr.Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม

นายสุทธิ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการพัฒนาการด้านแรงงานและการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการคุ้มครองแรงงานในภาคประมง ซึ่งได้มีการให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง ค.ศ.2007 เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งประเทศไทยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสหภาพยุโรป (อียู) ผ่านโครงการ Ship to Shore ที่ดำเนินการโดยองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวสิ้นสุดลงในปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทย โดยกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมุ่งมั่นและทุ่มเทในการรักษามาตรฐานการคุ้มครองแรงงานในภาคประมงอย่างยั่งยืน โดยหวังว่า จากการหารือรวมถึงการศึกษาดูงานที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO) และศูนย์ฟื้นฟูฯ ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะได้รับการต่อยอดเป็นโครงการความร่วมมือ เพื่อการดำเนินการร่วมกันระหว่างไทยและอียูอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยอาจหารือเชิงลึกในรายละเอียดที่ประชุมเชิงวิชาการหรือการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

Advertisement

“สำหรับการประชุมในครั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายจากการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ การติดตามพัฒนาการด้านแรงงานที่สำคัญ การสะท้อนความสำเร็จที่เกิดจากโครงการความร่วมมือระหว่างอียูและกระทรวงแรงงาน ตลอดจนความร่วมมือที่จะระบุถึงปัญหาด้านแรงงานที่มีในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งการหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ (Priorities) ได้แก่ เศรษฐกิจนอกระบบ การคุ้มครองทางสังคม (ประกันสังคม) และ การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นผลจากการประชุมเชิงวิชาการครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2561 ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 จะเป็นการศึกษาดูงานที่ไปโป้ เขต 1 (สมุทรสาคร) และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานเขต 1 จ.ปทุมธานี โดยผลลัพธ์จากการประชุมในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือเชิงนโยบาย เพื่อนำไปสู่การต่อยอดและหารือเชิงลึกในการประชุมเชิงวิชาการหรือการประชุมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป” นายสุทธิ กล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image