เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า กรณีบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิง ทาง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล หากมองในภาพรวมของรัฐบาลการช่วยเหลือจะต้องทำข้อมูลส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำตามาตรการการช่วยเหลือของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์กราดยิงที่ซอยจุฬา 10 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทางกรมสุขภาพจิตจะต้องลงไปดำเนินการอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่หวังว่าคงไม่รุนแรง อย่างน้อยก็อยู่ในพื้นที่จำกัดและคาดว่ามีการจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว กรมสุขภาพจิตได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลและเกลี้ยกล่อมแล้ว
“สาธารณชนอย่าไปให้ความสนใจ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาทำไป ยิ่งไปให้ความสนใจ ยิ่งไปกดดันหรือโพสต์กดดัน หากเขาเล่นเฟซบุ๊กเหมือนคนที่แล้ว ก็จะยุ่งกันไปใหญ่ ดังนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไป เกิดอยู่ในกรุงเทพมหานคร(กทม.) เจ้าหน้าที่คงจัดการได้” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องให้กรมสุขภาพจิตรื้อแผนการดูแลสุขภาพจิตคนไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องดูภาพรวม ไม่ใช่ว่าทุกคนคิดอย่างนี้ทุกคน เราจะต้องดูแลเป็นจุดๆ ไป คนไทยโดยส่วนใหญ่ยังมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ดีอยู่ แต่อาจมีบางคนที่มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล แต่จะต้องแก้เป็นจุดๆ หากประชาชนที่มีคนรู้จักใกล้ชิดที่มีภาวะซึมเศร้า ตีตัวห่างสังคม ก็จะต้องแนะนำให้เข้ารับการบำบัด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
“สภาพเศรษฐกิจอย่างนี้ เจอเรื่องร้ายๆ เรื่องไวรัสโคโรนา 19 เรื่องโคราชทั้งหลายเหล่านี้ ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดสภาพกดดัน บางคนที่เขาไม่อึดพอก็เกิดสภาวะวิตกกังวล ควบคุมตัวเองไม่ได้ เราถึงมีจิตแพทย์ โรงพยาบาลจิตเวชให้การรักษา ไม่ใช่บ้านะ แต่เป็นสภาวะแบบนี้ อย่าว่าแต่ทั่วไปเลย ผมเองก็ถ้าไม่เจอหมดทุกวัน ไม่เคยพบกรมสุขภาพจิตก็อาจจะบ้าไปแล้วก็ได้ เราก็ไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้น มีอะไรก็ระบายให้คนที่สุขภาพจิตแข็งแรงกว่าฟัง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าปัญหามาจากความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ รัฐบาลก็ได้หารือเรื่องปัญหาความยากจน เรื่องปากท้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่มีทางที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องปากท้องประชาชน เพราะรัฐบาลมาจากประชาชน
“สิ่งที่เราทำคือเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เมื่อวานเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณก็ผ่านแล้ว ก็หวังว่าทุกอย่างจะผ่าน วันนี้ก็น่าจะเข้า ส.ว.ได้ ถ้าผ่าน ส.ว. ก็จะรีบให้มีผลบังคับใช้ และใช้เวลาทั้งหมดนำงบประมาณลงเข้าไปในระบบในทุกภาคส่วน มันก็น่าจะดีขึ้น เงินมันหมุนเวียน นำไปใช้เป็นทอดๆ ไป” นายอนุทิน กล่าว
