จากกรณีที่กลุ่มผู้ค้าบริเวณปากคลองตลาดปิดถนนและเทดอกไม้บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งพระนคร เมื่อคืนวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจาก กทม.จัดระเบียบบริเวณปากคลองตลาดและห้ามวางขายสินค้าบนทางเท้าทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ทำให้กลุ่มผู้ค้าไม่พอใจและจะมาพบกับผู้บริหารกทม. ในวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม เพื่อเจรจา ซึ่งหลังจากนั้นในคืนวันที่ 2-4 กรกฎาคม สำนักงานเขตพระนครได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรึงกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร รวมกว่า 100 นาย เพื่อป้องกันเหตุ แต่กลุ่มผู้ค้าก็ไม่ได้ออกมาประท้วงหรือปิดถนนแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายสมชัย ไตรพิทยากุล ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า หากผู้ค้าจะมายื่นหนังสือก็ยังยืนยันตามเดิมว่าจะไม่ผ่อนผันให้อีกแล้ว เพราะที่ประชุมก็มีมติเรียบร้อย ทั้งนี้ ทางเท้านั้นเป็นสิทธิของประชาชนทุกคนจะปล่อยให้ผู้ค้ามีสิทธิเหนือประชาชนคนอื่นได้อย่างไร และวันนี้จะมีการประชุมร่วมกันที่สำนักงานเขตพระนครในเวลา 11.00 น. โดยมีตัวแทนผู้ค้าเข้าร่วมประชุมด้วย
จากนั้นเวลาประมาณ 10.30 น. นายภิรมย์ ชิดกร แกนนำกลุ่มผู้ค้าปากคลองตลาดพร้อมด้วยกลุ่มผู้ค้าจำนวนหนึ่งเดินทางมาที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกทม. หรือผู้บริหารกทม.คนใดที่มีอำนาจในการตัดสินใจ โดยอยากขอให้กทม.ทบทวนเรื่องการจัดระเบียบเพื่อคืนทางเท้าให้ประชาชน ทั้งที่พื้นที่รองรับผู้ค้ายังไม่เพียงพอและบางส่วนยังไม่เรียบร้อย ซึ่งมีผู้ค้าที่ยังไม่มีพื้นที่ขายอีกกว่า 400-500 คน รวมทั้งคนที่ย้ายเข้าไปขายในพื้นที่เอกชนตอนนี้ก็ขายของไม่ได้ โดยอยากให้ผ่อนผันให้ขายในพื้นที่เดิมในระหว่างเวลา 20.30 – 04.30 น. ออกไปอีก 3 เดือนหรือจนถึงสิ้นปี หรือเป็นไปได้อยากขอให้เปิดให้ขายในพื้นที่เดิมในเวลาเดิม เพราะ ปากคลองตลาดเป็นตลาดค้าดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ 4 ของโลก นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งกทม.จะขอความร่วมมืออย่างไรผู้ค้าก็ยินดีอยู่แล้ว
“ผมบอกผู้ค้าทุกคนให้ทำตามกฎหมาย ไม่มีการสนับสนุนให้ก่อม็อบ ปิดถนนหรือทำอะไรที่ผิดต่อกฎหมาย แต่อยากให้เข้าใจว่ามีผู้ค้าบางส่วนก็น่าจะเกิดความอัดอั้นตันใจจึงพากันไปปิดถนน และเทดอกไม้ลงถนน ซึ่งดอกไม้ที่เทก็คือสินค้าที่ขายไม่ได้ ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน” นายภิรมย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากขอเข้าพบผู้บริหารกทม.แต่ไม่มีผู้บริหารคนใดลงมาพบหรือรับหนังสือร้องเรียน ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าได้หารือก้บเจ้าหน้าที่ ซึ่งแจ้งขอให้ไปประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่สำนักงานเขตพระนคร โดยตัวแทนกลุ่มผู้ค้ายินยอมจะเดินทางไปประชุมร่วมที่เขตฯเนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีผู้บริหารรออยู่ที่สำนักงานเขตฯ โดยเริ่มประชุมในเวลาประมาณ 12.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าร่วมประชุม โดยไม่มีผู้บริหารระดับสูงของกทม.เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง แต่ประชุมเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.
โดย นายสมชัย ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมยืนยันตามมติเดิมที่ประชุมร่วมกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม2559 ว่าจะยกเลิกผ่อนผันการขายบนทางเท้าทั้งตอนกลางวันในวันที่ 1 เมษายน และกลางคืนได้ขยายจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน และสุดท้ายในวันที่ 1 กรกฎาคมจะไม่มีการวางขายทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตัวแทนผู้ค้ายอมรับเป็นมติร่วมกัน ส่วนพื้นที่ที่จัดให้ที่บริเวณตลิ่งชันนั้น ผู้ค้าระบุว่าไกล แต่มีข้อดีคือมีพื้นที่เพียงพอมีที่จอดรถ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ค้าส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ย้ายไปสถานที่ที่กทม.จัดหาหรือประสานงานไว้ให้ โดยระบุว่าเจ้าของพื้นที่มีการเรียกเก็บเงินกินเปล่า(ค่าแป๊ะเจี๊ยะ) และพื้นที่มีขนาดเล็ก คับแคบ ค่าเช่าราคาแพงไม่เหมาะสำหรับการค้าขาย ซึ่งในกรณีที่ผู้ค้าร้องว่ามีการเก็บเงินดังกล่าวจะไปหารือกับเจ้าของพื้นที่อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้กทม.ได้ตกลงกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งรับปากว่าจะไม่เก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะและให้ขายฟรีเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอัตราค่าเช่าหลังจากนั้นให้เป็นไปตามอัตราที่เจ้าของพื้นที่กำหนดแต่ต้องมีความเหมาะสม ทั้งนี้ กทม.จะตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตลอด24 ชั่วโมง ต่อไปอีกเป็นเวลา 2 เดือน
ด้านนายภิรมย์ กล่าวว่า ก็เข้าใจว่ากทม.ต้องทำตามหน้าที่ กทม.ยืนยันมติเดิมเราก็ต้องยอมรับ และปฏิบัติตามกฎหมาย ตลาดค้าดอกไม้ปากคลองตลาดก็ต้องปิดตำนานไป หลังจากนี้จะไปคุยกับผู้ค้าทั้งหลายว่าให้ยอมรับ โดยยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนให้ผู้ค้ามาทำผิดกฎหมาย ทำกติกาหรืออกมาประท้วง ก็ยังยืนยันจะทำตามกฎหมาย
