เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นกรณีการปิดสนามมวย สถานบันเทิง และเลื่อนการจัดเทศกาลสงกรานต์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งนี้ ได้แสดงความห่วงใยและตั้งคำถามถึงมาตรการดังกล่าวว่าสามารถช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ โดยเสนอว่า การปิดดังกล่าวเป็นเพียงการชะลอตัวเลข แต่จะสัมฤทธิผลได้นั้นต้องมีกระบวนการอย่างอื่นทำควบคู่ไปด้วย โดยที่มาตรการสูงสุดและช่วยได้จริงคือ การปิดเมือง ปิดบ้าน อย่างน้อย 14-21 วัน
ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวระบุว่า
“การปิดสนามมวยสถานเริงรมย์ 14 วันช่วยได้จริงหรือ?
16/3/63
การปิดดังกล่าว เป็นเพียงการชะลอตัวเลข แต่จะสัมฤทธิผลได้นั้นต้องมีกระบวนการอย่างอื่นทำควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ โดยที่มาตรการสูงสุดที่แท้จริงคือปิดเมือง ปิดบ้าน อย่างน้อย 14-21 วัน
ทำไม 14 ถึง 21 วัน?
อย่างน้อยในช่วง 14 วันนี้ คนที่อยู่ในระยะฟักตัวและมีอาการชัดเจนสามารถเก็บกักตัวได้เลย และรักษาช่วยชีวิต และในกลุ่มที่อาการน้อยมากจะแพร่เชื้อออกมาได้เฉลี่ย 20 วัน และหายเอง
ในเมืองหนึ่งๆ ที่ปิด มีมาตรการอะไร?
ประชาชนทุกคน ออกจากบ้านน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นโดยใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างหนึ่งถึง 2 เมตร ทำธุระตามต้องการเสร็จกลับเข้าบ้าน
หยุดสถานศึกษาไม่มีการประชุมใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ โดยผ่านระบบออนไลน์
คนที่ยังทำงานอยู่และต้องออกจากบ้านคือคนที่ทำงานในระบบสาธารณะสำหรับเมืองๆ นั้น และไม่ให้ทำงานทุกคน เพราะถ้าติดเชื้อทุกคนในองค์กรนั้น จะไม่เหลือใครมาทำงานสาธารณะ สาธารณูปโภค
ระบบจะพินาศ
ยกตัวอย่างเช่นถ้าคณะรัฐมนตรีติดเชื้อหมดทุกคน เป็นต้น
รถโดยสารสาธารณะจะต้องว่างที่สุดโดยให้ผู้โดยสารห่างกันหนึ่งถึงสองเมตร
การเลื่อนวันสงกรานต์ไปเป็นเดือนอื่นช่วยจริงหรือไม่?
ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักถ้าไม่มีมาตรการปิดแต่ละเมืองปิดบ้าน 14 ถึง 21 วันมาก่อน
ปิดแต่กรุงเทพ เมืองเดียวช่วยได้จริงหรือ?
ถ้าคิดจะปิดกรุงเทพเมืองเดียวโดยดูจากจำนวนผู้ติดเชื้อว่าส่วนมากอยู่ที่กรุงเทพอาจยืนอยู่บนสมมุติฐานที่ เจอคนติดเชื้อใน กทม. เยอะที่สุด
แต่ทั้งนี้เป็นไปได้หรือ ที่เมืองอื่นไม่มีผู้ติดเชื้อและกำลังแพร่เชื้ออยู่”
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่