กทม.จ่อฟัน ‘สถานบริการ’ หนีช่อง กม. ลั่นฝ่าฝืนจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ศาลาว่าการ กทม.พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2563 โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และส่วนราชการในสังกัด กทม.ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม พล.ต.ท.โสภณ ได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขต 50 เขต ดำเนินการตรวจสอบ และติดตามให้สถานบริการ และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ตามความมาตรา 35 (1) พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558

พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า แม้ว่าสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ จะปรับตัวด้วยการไม่จัดแสดงดนตรี ไม่มีการเปิดเพลง ไม่แสดงโชว์ ไม่จำหน่ายสุรา แต่ยังถือว่าเป็นประเภทกิจการสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ จึงต้องปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวตามคำสั่ง หากสถานบริการและสถานประกอบการคล้ายสถานบริการฝ่าฝืน จะมีความผิดตามมาตรา 52 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ สำนักพัฒนาสังคม ได้รายงานแผนการสอนทำหน้ากากอนามัยให้กับ 50 สำนักงานเขต ดังนี้ ส่งแผนการสอน 50 เขต ดำเนินการจัดการสอนแล้ว 42 เขต กำลังดำเนินการภายในเดือนมีนาคม 8 เขต แผนการสอนที่ดำเนินการกับหน่วยงานของ กทม. 69 แห่ง หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่น ได้แก่ หน่วยงานทหาร สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ไจก้า (JiCA) ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ 36 แห่ง รวมแผนการสอน 153 แห่ง โดยมีแผนการสอนถึงวันที่ 30 มีนาคมนี้ สรุปจำนวนการผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้า โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร 8 แห่ง จัดทำได้ 18,134 ชิ้น 42 เขต รวมชุมชน จัดทำได้ 52,756 ชิ้น หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ จัดทำได้ 32,054 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 102,944 ชิ้น

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ และ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดทำแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในกรณีสถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยให้นำเสนอในที่ประชุมศูนย์ฯ ในวันที่ 23 มีนาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image