‘โควิด-19’ ตายเพิ่ม 1 ราย เพิ่มใหม่ 109 ราย อาการรุนแรง 17 ราย

“โควิด-19” ตายเพิ่ม 1 ราย เพิ่มใหม่ 109 ราย อาการรุนแรง 17 ราย

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำหน่วยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นพ.อนุพงศ์กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงอายุ 55 ปี มีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี รวมถึงมีไขมันในเลือดสูง ได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ด้วยอาการหอบเหนื่อยและตรวจพบว่ามีปอดอักเสบรุนแรงและต่อมาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายและกลับบ้านเพิ่ม 3 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มใหม่ 109 ราย นับเป็นรายที่ 1,137-1,245 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1 เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันเดิมและเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 39 ราย ได้แก่
1.เกี่ยวข้องกับสนามมวยจำนวน 10 ราย ได้แก่ โดยอยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้งหมด
2.เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 8 ราย ได้แก่ พบใน กทม. และสถานบันเทิงใน จ.ศรีสะเกษ คาดว่ามีการติดเชื้อก่อนหน้าที่จะประกาศปิด ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ในวันที่ 26 มีนาคม

Advertisement

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ มีจำนวน 17 ราย ได้แก่
1.ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจำนวน 8 ราย เป็นชาวไทย 6 ราย ที่เดินทางกลับมาจากอเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ 2 ราย ได้แก่ ยูเครน โปรตุเกส

2.ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดที่จะต้องใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ จำนวน 7 ราย ได้แก่ พนักงานบริษัท พนักงานร้านนวดสปา ขายบริการ พนักงานต้อนรับในโรงแรม ร้านอาหาร เชฟ และเจ้าของร้านขายเครื่องประดับ

3.บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 2 ราย รวมมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ สะสม 11 ราย

Advertisement

กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยกลุ่มที่ยืนยันทางห้องปฏิบัติการแล้วแต่ต้องรอการสอบสวนโรคและประวัติเสี่ยงเพิ่มเติมจำนวน 53 ราย โดยกระจายอยู่ที่เชียงราย นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร มุกดาหาร ภูเก็ต ปัตตานี นราธิวาส ยะลาและ กทม.

นพ.อนุพงศ์กล่าวว่า ผู้ป่วย 1,245 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ 57 จังหวัด พบมากใน กทม. จำนวน 515 ราย โดยผู้ป่วยที่พบในประเทศไทย มีอายุน้อยที่สุดคือ 6 เดือน มากที่สุดคือ 84 ปี และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยระหว่างอายุ 20-49 เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาด ขึ้นที่สนามมวยและสถานบันเทิง จึงเป็นผู้ที่มีอายุน้อย ระหว่าง 20-49 ปี โดยเป็นผู้ป่วยชายมากกว่าหญิง

นพ.อนุพงศ์กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีจำนวน 17 ราย แบ่งอยู่ที่ รพ.สังกัด สธ. โรงเรียนแพทย์ รพ.สังกัดกลาโหม จำนวน 12 ราย และ 5 รายรักษาอยู่สถานพยาบาลในต่างจังหวัด โดยมีอายุเฉลี่ย 31-76 ปี ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทีมแพทย์จะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด

“สรุปรวมประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,245 ราย กลับบ้านแล้ว 100 ราย และรักษาอยู่ใน รพ.จำนวน 1,139 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 17 ราย และเสียชีวิต 6 ราย” นพ.อนุพงศ์กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image