ภาคเหนือ ไฟป่า สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังจมฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และหมอกควันสูงต่อเนื่อง 5 จังหวัดอ่วมหนัก
หมอกควัน-ไฟป่าภาคเหนือ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 เมษายน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5ในพื้นที่ภาคเหนือ.ตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 26 สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 27 – 175 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) มี 10 สถานี คือ ต.เวียง อ.เมือง 118 มคก./ลบ.ม., ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 165 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง 113 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 108 มคก./ลบ.ม., ต.สุเทพ อ.เมือง 101 มคก./ลบ.ม.,ประตูท่าแพ อ.เมือง 94 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 175 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง 91 มคก./ลบ.ม., ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 101 มคก./ลบ.ม. และต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 95 มคก./ลบ.ม.
ส่วนพื้นที่ ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) มี 11 สถานีคือ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 62 – 193 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 มคก./ลบ.ม.มีค่าเกินมาตรฐาน 8 สถานี คือต.เวียง อ.เมือง, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา,และต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
ทส.เผย สถานการณ์ไฟป่า 9 จังหวัดภาคเหนือดีขึ้น
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ติดตามการแก้ไขปัญหาพิบัติภัย (ไฟป่าและหมอกควัน) ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส.ประชุม ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างต่อเนื่อง
จตุพร บุรุษพัฒน์
นายจตุพร กล่าวว่า โดยสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง ค่า hotspot เพิ่มเพียง 6% การดับไฟมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงดับไฟและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไฟดับสนิท ไม่ให้เกิด hotspot เพิ่ม ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส.ได้กำชับให้เร่งหาผู้กระทำผิดโดยเร็วและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โดยขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่เสียสละและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือที่ต้องเสียสละชีวิต กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และเปิดโอกาสให้โควต้าครอบครัวละ 1 คน เพื่อให้บุตรหลานเข้ามาทำงานในกรมป่าไม้หรือกรมอุทยานฯ ตามที่สมัครใจ
