ไทยป่วย “โควิด-19” ใหม่ 5 ราย กลับจากซาอุฯ ทุกราย
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย รักษาหายสะสมที่ 3,008 ราย อยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) 80 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ 5 ราย ทำให้วันนี้มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,146 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด พบในกรุงเทพมหานคร และ จ.นนทบุรี 1,757 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 439 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 744 ราย โดยผู้ป่วยอายุน้อยสุด 1 เดือน อายุมากสุด 97 ปี โดยเฉลี่ยคืออายุ 39 ปี
“การติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์เนื่องมาอีกวัน และผู้ป่วยรายใหม่วันนี้เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine)” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ โดยกลับมาประเทศซาอุดิอาระเบียทั้ง 5 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 23 – 26 ปี เดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน และเข้าพัก State Quarantine ที่กรุงเทพฯ ทุกรายไม่มีอาการ กระทั่งตรวจหาเชื้อในวันที่ 16 มิถุนายน จึงพบว่าติดเชื้อ ส่วนการติดเชื้อในประเทศยังคงเป็น 0 ต่อเนื่อง ทั้งนี้ คนไทยที่เดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบีย เที่ยวบินวันที่ 12 มิถุนายน จากเมืองเจดดาห์รวม 195 คน ตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง คือ วันที่ 13 มิถุนายน พบ 5 ราย วันที่ 18 มิถุนายน พบ 5 ราย และวันที่ 19 มิถุนายนพบอีก 5 ราย รวมเป็น 15 ราย โดยคนไทยกลับจากซาอุดิอาระเบีย 274 ราย พบมีผู้ติดเชื้อในสถานกักกัน 33 ราย คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 10.22 เป็นอันดับ 2 รองจากคูเวต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลย้อนหลังวันที่ 12 มกราคม – วันที่ 15 เมษายน ก่อนที่จะมี State Quarantine คนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพบว่าติดเชื้อโควิด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน 20 ราย 2.สหราชอาณาจักร 15 ราย 3.ฝรั่งเศส 13 ราย 4.สหรัฐอเมริกา 7 ราย 5.เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศละ 6 ราย 6.มาเลเซีย 5 ราย 7.เดนมาร์ก 4 ราย 8.ญี่ปุ่น 4 ราย 9.รัสเซีย 4 ราย และ 10.สิงคโปร์ 4 ราย
“ส่วนคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ – วันที่ 5 เมษายน มีรายงานติดเชื้อจากประเทศนั้น ดังนี้ 1.สหราชอาณาจักร 104 ราย 2.อินโดนีเซีย 55 ราย 3.มาเลเซีย 51 ราย 4.กัมพูชา 26 ราย 5.ญี่ปุ่น 16 ราย 6.ปากีสถาน 15 ราย 7.สหรัฐอเมริกา 12 ราย 8.ฝรั่งเศส 8 ราย 9.อิตาลี 8 ราย และ 10.สเปน 5 ราย ขณะที่คนไทยกลับจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine วันที่ 8 กุมภาพันธ์ – ปัจจุบัน ได้แก่ 1. อินโดนีเซีย 63 ราย 2.คูเวต 34 ราย 3.ซาอุอาระเบีย 28 ราย 4.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 15 ราย 5.ปากีสถาน 13 ราย 6.อินเดีย 11 ราย 7.กาตาร์ 9 ราย 8.สหรัฐอเมริกา 9 ราย 9.รัสเซีย 5 ราย และ 10.มาเลเซีย 4 ราย” โฆษก ศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยัน 8.5 ล้านราย ป่วยเพิ่มขึ้นวันเดียว 1.4 แสนราย เสียชีวิตเพิ่ม 5,000 ราย เสียชีวิตรวม 4.56 แสนราย โดยสหรัฐอเมริกาวันเดียวเกือบ 3 หมื่นราย รวม 2.26 ล้านราย บราซิลรายใหม่ 2.3 หมื่นราย รวม 9.83 แสนราย เรื่องที่น่าสนใจคือ เยอรมนีพบโควิด-19 ระบาดคนงานโรงฆ่าสัตว์ติดเชื้อกว่า 650 ราย จึงสั่งระงับปฏิบัติงานโรงงานแปรรูปเนื้อแห่งหนึ่งในเมือง กือเทอร์สโลห์ กักตัวประชาชนหลายพันรายในบ้าน ตรวจโรคคนงานมากกว่า 1,000 คน ขณะที่อังกฤษติดเชื้อ 58 รายจากโรงฆ่าไก่ในเวลส์ 2 แห่ง ที่ส่งไก่สดไปซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารต่างๆ ในสหราชอาณาจักร
“จะเห็นว่ากลุ่มผู้ใช้แรงงาน โรงงานต่างๆ จะมีเรื่องของสุขอนามัย อยู่กับเนื้อสัตว์เนื้อสด มีโอกาสเกี่ยวข้องกับการปนเปื้อนเชื้อโรค เราต้องเรียนรู้ตรงนี้ โรงงานต่างๆ ฝากผู้ประอบการดูแลเรื่องอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ตามกฎหมาย ดูเรื่องความสะอาด สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม หากไม่ต้องการให้มีการติดเชื้อต้องดูแลตัวเองอย่างดี ต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ก็จะปลอดโรคปลอดภัย เหมือนร่วมกันสวมหน้ากากอนามัย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว