สสส.ดึง อสม. ค้นหา “นักสูบ” อยากเลิกบุหรี่ ติดตามผลต่อเนื่อง 1 ปี

สสส.ดึง อสม. ค้นหา “นักสูบ” อยากเลิกบุหรี่ ติดตามผลต่อเนื่อง 1 ปี

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ.พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ (ศบช.) หรือ สายเลิกบุหรี่ 1600 และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าว “โครงการรวมพลังตามหาคนอยากเลิกบุหรี่” เพื่อสร้างความตระหนัก และชวนประชาชนให้ลดหรือเลิกสูบบุหรี่ทุกชนิดได้สำเร็จในช่วงวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระบาด

นายสาธิต กล่าวว่า การรณรงค์การเลิกสูบบุหรี่เป็นหน้าที่ของ สธ. และรัฐบาล ควบคู่กับสิทธิเสรีภาพประชาชน ล่าสุด สสส.ได้รณรงค์ชวนคนเลิกสูบบุหรี่โดยใช้กลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งกระจายตัวทั่วประเทศ ให้มีการเคาะประตูบ้านชวนคนเลิกบุหรี่ต่อเนื่องจากโครงการที่เคยทำมาก่อน จึงตั้งเป้ารอบนี้สามารถช่วยคนเลิกบุหรี่ได้มากขึ้น และไม่มีนักสูบหน้าใหม่ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ไม่มีคนป่วยจากบุหรี่เพิ่ม จะได้นำงบประมาณที่ต้องจ่ายค่ารักษาโรคที่เกิดจากบุหรี่ไปใช้เพื่อประโยชน์ประเทศด้านอื่นต่อไป

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ขณะนี้ อสม.มีภารกิจที่ต้องติดตามดูแลสุขภาพจิตประชาชน หลังโรคโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงคำแนะนำในการใช้วิถีชีวิตใหม่ ก็จะใช้โอกาสนี้ในการค้นหาผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ด้วย เมื่อพบจะมีการขอชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อส่งต่อยังสายด่วน 1600 เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ต่อไป โดยตั้งเป้าให้เป็นพื้นที่ปลอดทั้งโควิด-19 และปลอดบุหรี่ด้วย

Advertisement

ด้าน นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การสูบบุหรี่ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี โดยลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 19.1 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ปี 2560 พบคนไทยเสียชีวิตเพราะบุหรี่ถึง 72,656 คน โดยผู้เสียชีวิตแต่ละคนเสียชีวิตเร็วขึ้น 18 ปี โดยเฉลี่ยต้องทุพพลภาพก่อนเสียชีวิต 3 ปี ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ยังทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจถึงปีละ 87,250 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.56 ของจีดีพี และคิดเป็นร้อยละ 15 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ แบ่งเป็น ต้นทุนจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 77,173 ล้านบาท ต้นทุนค่ารักษาพยาบาลจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ 8,891 ล้านบาท ดังนั้น โครงการนี้จึงหวังว่าจะช่วยลดจำนวนนักสูบให้ได้มากที่สุด แต่ยังไม่กล้าคาดหวังถึงตัวเอง

Advertisement

รศ.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการ ศบช. กล่าวว่า การเลิกบุหรี่ที่ได้ผลที่สุดคือ คนสูบต้องมีความสมัครใจเลิกเอง อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ที่สามารถเลิกบุหรี่เองสำเร็จ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เลิกไม่สำเร็จ เพราะความอยากนิโคติน และความเครียดเป็นต้น ดังนั้น การที่ได้ อสม. ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดในชุมชน รู้จักคน และเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจเข้าไปค้นหาและนำคนอยากเลิกเข้ามาสู่ระบบให้การช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ สายเลิกบุรี่ 1600 จึงมีโอกาสที่จะสำเร็จ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้สำเร็จถึงร้อยละ 32

“เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาจะต้องสร้างความไว้ใจแก่ผู้ขอเลิกบุหรี่ก่อน และ อสม.เป็นผู้ที่อยู่ในชุมชนและได้รับความไว้ใจจากประชาชน ทั้งนี้โครงการจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเมื่อได้รับข้อมูลคนต้องการเลิกบุหรี่ที่ถูกส่งต่อมาจาก อสม. ทางสายเลิกบุหรี่ 1600 ก็จะประสานกลับไปให้การช่วยเหลือ รวมถึงการตั้งรับโดยเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ 42 คู่สายรับเรื่องและส่งต่อผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาฟรี โดยทุกคนที่เราให้คำปรึกษาจะมีการติดตามต่อเนื่องไป 1 ปี โดยเฉพาะช่วง 1-2 สัปดาห์แรกซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการเลิกบุหรี่” รศ.จินตนา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image