หลังโควิด-19 คนไทยไปทำงาน ตปท.พุ่ง! มิ.ย.-ก.ย.กว่า 5.2หมื่นคน

หลังโควิด-19 คนไทยไปทำงาน ตปท.พุ่ง! มิ.ย.-ก.ย.กว่า 5.2หมื่นคน

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ รวมทั้งรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศที่ผ่อนคลายมากขึ้นนั้น พบว่า ความต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศของแรงงานไทยเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากสถิติคนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ผ่านด่านตรวจคนหางานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมการจัดหางาน (กกจ.) เดือนกรกฎาคม 2563 ที่มีจำนวน 2,394 คน เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า จากเดือนมิถุนายน ที่มีคนหางานเดินทาง 585 คน ขณะที่เดือนพฤษภาคม มีคนหางานเดินทาง 243 คน เดือนเมษายน 557 คน และเดือนมีนาคม ที่เป็นระยะเริ่มต้นของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีคนหางานเดินทาง 3,737 คน

สุชาติ ชมกลิ่น

“ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาฟื้นฟูประเทศ เพื่อให้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจกลับมาสู่สภาพปกติ และกำลังแรงงานถือเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของภาคธุรกิจ ซึ่งแรงงานไทยเป็นประเทศลำดับแรกๆ ที่ตลาดแรงงานในต่างประเทศต้องการและติดต่อเข้ามา เนื่องจากแรงงานไทยมีวินัยในการทำงานและมีทักษะฝีมือดี ประกอบกับประเทศไทยมีการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับ ทำให้โอกาสของแรงงานไทยในการไปทำงานต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานประเภทฝีมือและกึ่งฝีมือ” นายสุชาติ กล่าวและว่า  จะใช้โอกาสนี้เพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยได้มีตลาดทำงานในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้มีอาชีพ มีรายได้

นายสุชาติ กล่าวว่า แนวทางนี้จะลดปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำเงินกลับเข้าประเทศ ทั้งนี้ การเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก โดยผลมวลรวมในปี 2563 มีรายได้เข้าประเทศกว่า 73,434 ล้านบาท จำแนกเป็นรายเดือน ดังนี้ มกราคม 12,270 ล้านบาท กุมภาพันธ์ 10,305 ล้านบาท มีนาคม 11,361 ล้านบาท เมษายน 8,996 ล้านบาท พฤษภาคม 9,226 ล้านบาท มิถุนายน 10,341 ล้านบาท และกรกฎาคม 10,935 ล้านบาท

ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดี กกจ. กล่าวถึงขั้นตอนการไปทำงานต่างประเทศที่ถูกกฎหมาย 5 วิธี คือ 1.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง 2.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยบริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง 3.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง ได้แก่ โครงการจ้างตรง :ไต้หวัน โครงการ IM: ประเทศญี่ปุ่น โครงการ EPS: เกาหลี โครงการ TIC 4.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศ และ 5.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศ

Advertisement

“สำหรับแผนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างเดือน มิถุนายน-กันยายน 2563 ตั้งเป้าไว้ที่ 52,253 คน คาดว่าจะส่งไปยังภูมิภาคเอเซีย เช่น ไต้หวัน 20,120 คน ญี่ปุ่น 3,818 คน สาธารณรัฐเกาหลี 6,421 คน มาลาเซีย 2,448 คน สิงคโปร์ 2,934 คน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อิสราเอล 2,840 คน ส่วนแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในต่างประเทศนั้น จากข้อมูลของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ณ เดือนกรกฎาคม 2563 มีจำนวน 121,922 คน อยู่ที่ในกลุ่มประเทศเอเชียและเอเชียใต้ 91,541 คน มากสุด คือ ไต้หวัน 59,375 คน กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 24,312 คน มากสุด คือ อิสราเอล 21,916 คน กลุ่มประเทศยุโรป อเมริกา และอื่นๆ 5,720 คน มากที่สุด คือ ฮังการี 693 คน และกลุ่มประเทศแอฟริกา 349 คน มากที่สุด คือ แอฟริกาใต้ 115 คน” อธิบดี กกจ. กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image