เฮ้งเร่งประกันสังคมทำงานเชิงรุก ดูแลลูกจ้างบริษัทผลิตถุงลมนิรภัยถูกลอยแพ
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ส่งเจ้าหน้าที่ สปส.เข้าดูแล ให้ความช่วยเหลือชี้แจงสิทธิและการขอรับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมจากเหตุการณ์ บริษัท สหเซเรน จำกัด สถานประกอบกิจการ ตั้งอยู่เลขที่ 127 หมู่ที่ 1 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ประกาศโครงการสมัครใจลาออก เนื่องจากประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เร่งลงพื้นที่เพื่อประสานกับนายจ้าง ลูกจ้างทันที พร้อมทั้งดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
นายทศพล เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มอบหมายให้ น.ส.พรพิไล มะลอย ประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการดังกล่าว ประกอบด้วย โรงงาน 1 ประกอบกิจการ ผลิตถุงลมนิรภัยส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ ปัจจุบันมีลูกจ้างรวม 922 คน มีลูกจ้างสมัครใจลาออก รวมจำนวน 302 คน ส่วน โรงงาน 2 ประกอบกิจการ ผลิตเสื้อผ้ากีฬาส่งออกประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีลูกจ้างรวม 561 คน มีลูกจ้างสมัครใจลาออก รวมจำนวน 142 คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563
นายทศพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่ประกันสังคมได้เข้าตรวจสอบและให้คำแนะนำ ชี้แจงต่อลูกจ้างว่าลูกจ้างจะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
1.ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ร้อยละ 62 ของค่าจ้าง โรงงาน 1 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – วันที่ 31 สิงหาคม 2563 โรงงาน 2 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – วันที่ 31 สิงหาคม 2563
2. ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากการเลิกจ้างในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 200 วันตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
3. สิทธิประโยชน์คุ้มครองเป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากถูกเลิกจ้างได้แก่ กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร ชราภาพและเสียชีวิต
4. สิทธิในการสมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 เพื่อรับสิทธิประโยชน์การคุ้มครองจากประกันสังคมต่อเนื่อง
5. สำหรับลูกจ้างที่อายุเกิน 55 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ เงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญขึ้นอยู่กับจำนวนเงินสมทบที่ได้สะสมไว้บริษัทฯ ได้ตกลงจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายและจ่ายเงินพิเศษนอกเหนือจากกฎหมายให้แก่ลูกจ้าง
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับให้ สปส.ต้องดูแลลูกจ้างผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิอย่างครบถ้วน และต้องเข้าถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ ปากท้องของแรงงานเป็นเรื่องสำคัญเรื่องแรกในฐานะหัวหน้าผู้รับใช้แรงงาน” นายทศพล กล่าว
ด้าน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดี กสร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าสถานประกอบการดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19 และได้ประกาศโครงการสมัครใจลาออกจากงาน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ทั้งนี้ บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยตามตามกฎหมายแรงงานและเงินเพิ่มพิเศษนอกเหนือจากกฎหมายให้แก่ลูกจ้างเพิ่มเติมด้วย โดยลูกจ้างอายุงานไม่เกิน 1 ปี จะได้รับเพิ่ม 10,000 บาท อายุงานตั้งแต่ 1-6 ปี ได้รับเพิ่ม 15,000 บาท และ อายุงาน 6 ปีขึ้นไป ได้รับเพิ่มร้อยละ 20 ของเงินชดเชย ตามกฎหมายแรงงาน
“อย่างไรก็ตาม กสร. ได้กำชับกับพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ให้เข้าไปชี้แจงสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง และดูแลให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ตกลงกับนายจ้างอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งได้ประสานให้จัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี จัดหาตำแหน่งงานว่างรองรับลูกจ้าง ประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรีดูแลสิทธิผู้ประกันตนเพื่อดำเนินการจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงาน และประสานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ในการฝึกอาชีพให้กับลูกจ้างที่สนใจที่จะพัฒนาฝีมือแรงงานหรือเปลี่ยนอาชีพใหม่อีกด้วย” นายอภิญญา กล่าว
