กรมทะเลฯ เดินหน้ายึดป่าชายเลน จันทบุรี-ระยอง ทวงคืนพื้นที่ได้เพิ่ม 337 ไร่
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้มอบหมายให้นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนรองอธิบดีทช. เป็นประธานเปิดปฏิบัติการตรวจยึด เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน พร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำเจ้าหน้าที่กรม ทช. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หน่วยป้องกันรักษาป่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนภายใต้ “โครงการแผนปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง รวม 12 จุด เนื้อที่กว่า 337 ไร่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทส.กล่าวว่า ผืนป่าประเทศไทยในปัจจุบันมีประมาณ 102.49 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ ถือว่าไม่มากนัก เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ พื้นที่ป่าไม้จะต้องเพิ่มเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ หรือ 129.41 ล้านไร่ แบ่งเป็น ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ร้อยละ 25 และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ร้อยละ 15 พื้นที่ ป่าชายเลนเพิ่มจาก 1.53 ล้านไร่ เป็น 1.58 ล้านไร่ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้กำหนดขึ้นมาลอยๆ เป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ ต้องทำงานกันอย่างหนักและจริงจัง ตนได้สั่งการให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. เร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ และตรวจสอบผืนป่าทั่วประเทศ หากพบมีการบุกรุกให้ดำเนินการตรวจยึดทันที ไม่ต้องเกรงกลัวว่าเป็นของกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลใดๆ ผิดก็คือผิดในวันนี้จึงได้มอบหมายให้ ทช.ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง ไปเปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ จากนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ให้กลับฟื้นคืนสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ดังเดิม
นายอภิชัย กล่าวว่า สำหรับ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการภายใต้แผน ปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน โดยนำทีมสนธิกำลังทั้งสิ้น 12 จุด เนื้อที่รวมกว่า 337 ไร่ แบ่งออกเป็นท้องที่ ต.ตะกาดเง้า และ ต.สีพยา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 9 จุด รวมเนื้อที่กว่า 266 ไร่ และท้องที่ ต.เนินฆ้อ ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง 3 จุด รวมเนื้อที่กว่า 71 ไร่ ภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีนายทุนเข้าบุกรุกครอบครองทำนากุ้ง อยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนคลองบางกะจะ และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนประแส และป่าพังราด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากพบตัวผู้กระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจยึดและแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐมนตรีทส.
